Skip to content

รู้ทันอันตรายจากไฟฟ้า มีอะไรบ้าง พร้อมแนวทางป้องกันให้ปลอดภัย

รู้ทันอันตรายจากไฟฟ้า มีอะไรบ้าง

ไฟฟ้าเป็นพลังงานที่มีคุณประโยชน์มหาศาลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา ตั้งแต่การให้แสงสว่างไปจนถึงการขับเคลื่อนเทคโนโลยีต่างๆ แต่ในทางกลับกัน หากขาดการดูแลเอาใจใส่หรือใช้งานอย่างไม่ถูกวิธี ไฟฟ้าก็อาจกลายเป็นภัยร้ายแรงที่ก่อให้เกิดอันตรายจากไฟฟ้าต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ วันนี้ Sunny Emergency Light ได้รวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับอันตรายจากไฟฟ้า มีอะไรบ้าง รวมถึงแนวทางการป้องกันเพื่อความปลอดภัยของทุกคน

อันตรายจากไฟฟ้าที่พบบ่อย มีอะไรบ้าง?

อันตรายจากไฟฟ้าสามารถเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบและมีความรุนแรงแตกต่างกันไป การทำความเข้าใจถึงลักษณะของอันตรายแต่ละประเภทจะช่วยให้เราตระหนักและระมัดระวังมากขึ้น ซึ่งอันตรายจากไฟฟ้า มีอะไรบ้างที่เราพบบ่อย มีดังนี้

1. ไฟฟ้าดูด

ไฟฟ้าดูด (Electric Shock) คือภาวะที่กระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกาย ทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ ความรุนแรงขึ้นอยู่กับปริมาณกระแสไฟฟ้า, ระยะเวลาที่สัมผัส, เส้นทางที่ไฟฟ้าไหลผ่าน และสภาพร่างกายของผู้ถูกดูด การสัมผัสโดยตรงกับตัวนำไฟฟ้าที่ไม่มีฉนวนหุ้ม หรือการสัมผัสอุปกรณ์ที่มีไฟรั่วคือสาเหตุหลักของ ไฟฟ้าดูด

อาการและความรุนแรงของไฟฟ้าดูด

  • รู้สึกชา กล้ามเนื้อกระตุก ควบคุมไม่ได้
  • เกิดรอยไหม้บริเวณที่สัมผัสและกระแสไฟฟ้าไหลออก
  • หายใจลำบาก หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือหยุดเต้น
  • หมดสติ หรือเสียชีวิตในที่สุด

2. แผลไหม้จากไฟฟ้า

แผลไหม้จากไฟฟ้า (Electrical Burns) เป็นการบาดเจ็บที่ผิวหนังและเนื้อเยื่อส่วนลึก เกิดจากความร้อนของกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านร่างกาย หรือจากการสัมผัสกับวัตถุที่ร้อนจัดเนื่องจากไฟฟ้า เช่น ประกายไฟจากการอาร์ก (Arc Flash) หรือการสัมผัสอุปกรณ์ที่ร้อนเกินไป อันตรายจากไฟฟ้าประเภทนี้มักมีความรุนแรงกว่าแผลไหม้จากความร้อนทั่วไป

ประเภทของแผลไหม้จากกระแสไฟฟ้า

  • แผลไหม้จากกระแสไฟฟ้าโดยตรง (True Electrical Injury) เกิดจากกระแสไฟฟ้าไหลผ่านเนื้อเยื่อ
  • แผลไหม้จากการอาร์ก (Arc Burn) เกิดจากความร้อนสูงของประกายไฟอาร์ก
  • แผลไหม้จากการสัมผัส (Contact Burn) เกิดจากการสัมผัสวัตถุที่ร้อนจากไฟฟ้า
  • แผลไหม้จากเปลวไฟ (Flame Burn) เกิดจากวัสดุติดไฟเพราะไฟฟ้าลัดวงจร

3. อัคคีภัยจากไฟฟ้า

อัคคีภัยหรือไฟไหม้ที่มีสาเหตุจากไฟฟ้า เป็นอันตรายจากไฟฟ้าที่สร้างความเสียหายรุนแรงต่อทรัพย์สินและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต มักเกิดจากการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ชำรุด, การติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน, การใช้ไฟฟ้าเกินกำลัง (Overload), หรือไฟฟ้าลัดวงจร (Short Circuit) ทำให้เกิดความร้อนสูงจนจุดติดวัสดุที่อยู่ใกล้เคียงและลุกลามเป็นอัคคีภัย

4. การระเบิดจากไฟฟ้า

การระเบิดจากไฟฟ้า (Electrical Explosion) สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อมีประกายไฟหรือการอาร์กทางไฟฟ้าในบริเวณที่มีสารไวไฟหรือแก๊สรั่วไหล นอกจากนี้ การลัดวงจรในอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ เช่น หม้อแปลงไฟฟ้า หรือแบตเตอรี่ที่มีพลังงานสูง ก็อาจทำให้เกิดการระเบิดได้เช่นกัน แรงระเบิดและเศษชิ้นส่วนที่กระเด็นออกมาถือเป็นอันตรายจากไฟฟ้าที่รุนแรง

5. อันตรายแฝงอื่นๆ ที่เกิดจากไฟฟ้า

นอกจากอันตรายโดยตรงที่กล่าวมาแล้ว ยังมีอันตรายแฝงอื่นๆ ที่อาจเป็นผลพวงมาจากเหตุการณ์ทางไฟฟ้า เช่น การตกจากที่สูงเนื่องจากอาการตกใจเมื่อถูกไฟฟ้าดูดเล็กน้อย หรือการบาดเจ็บกล้ามเนื้อจากการกระตุกอย่างรุนแรง อันตรายจากไฟฟ้าเหล่านี้แม้จะไม่ใช่ผลโดยตรง แต่ก็มีความสำคัญและไม่ควรมองข้าม

ตัวอย่างอันตรายแฝงอื่นๆ

  • การตกจากที่สูง (บันได, นั่งร้าน)
  • การบาดเจ็บจากการชนหรือกระแทกสิ่งของ
  • ความเสียหายต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อในระยะยาว
  • ผลกระทบทางจิตใจ เช่น ความหวาดกลัว

สาเหตุหลักที่นำไปสู่ อันตรายจากไฟฟ้า

การทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดอันตรายจากไฟฟ้าจะช่วยให้เราสามารถป้องกันและลดความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจัยส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ การติดตั้ง และพฤติกรรมการใช้งานที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเราจะมาดูกันว่าอันตรายจากไฟฟ้า มีอะไรบ้างที่เกิดจากสาเหตุเหล่านี้

อุปกรณ์ไฟฟ้าเก่า ชำรุด หรือไร้มาตรฐาน

การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่เก่าเกินไป สายไฟกรอบแตก ฉนวนชำรุด หรืออุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ถือเป็นความเสี่ยงสูง อุปกรณ์เหล่านี้อาจเกิดการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้าได้ง่าย ทำให้เกิดไฟฟ้าดูดหรือความร้อนสะสมจนเป็นสาเหตุของอัคคีภัยการละเลยการตรวจสอบและเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ชำรุด เป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่อันตรายจากไฟฟ้า

ติดตั้งผิดพลาด ระบบไฟฟ้าไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย

การติดตั้งระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่างๆ อย่างไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ หรือการเดินสายไฟที่ไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย เป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักของอันตรายจากไฟฟ้า เช่น การต่อสายไฟที่ไม่แน่นหนา การไม่ติดตั้ง สายดิน หรือการเลือกขนาดสายไฟและอุปกรณ์ป้องกันที่ไม่เหมาะสมกับการใช้งาน อาจนำไปสู่ปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร ไฟฟ้าเกินกำลัง และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด ไฟฟ้าดูด และ อัคคีภัย

ใช้งานผิดวิธี ประมาท ขาดความรู้

พฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าอย่างประมาทเลินเล่อ หรือขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เช่น การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชิ้นกับเต้ารับเดียวจนเกินกำลัง (Overload), การสัมผัสสวิตช์ไฟขณะตัวเปียก, หรือการซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้าด้วยตนเองโดยไม่มีความชำนาญ ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอันตรายจากไฟฟ้าได้ การใช้งานผิดวิธีเหล่านี้เพิ่มโอกาสในการเกิดไฟฟ้าช็อต หรืออัคคีภัย

สภาพแวดล้อมและความชื้น ปัจจัยเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม

สภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว หรือบริเวณที่เปียกน้ำ เป็น ปัจจัยเสี่ยง ที่สำคัญ เนื่องจากน้ำเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดี การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าในบริเวณดังกล่าวจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นละอองหรือสารเคมีไวไฟ ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดประกายไฟและการระเบิดได้ นี่คืออีกด้านของคำถามว่าอันตรายจากไฟฟ้า มีอะไรบ้างที่ต้องใส่ใจ

คู่มือป้องกันอันตรายจากไฟฟ้า

คู่มือป้องกันอันตรายจากไฟฟ้า ทำอย่างไรให้ปลอดภัย?

การตระหนักถึงอันตรายจากไฟฟ้าเป็นเพียงก้าวแรก สิ่งสำคัญยิ่งกว่าคือการรู้วิธีป้องกันเพื่อให้มั่นใจได้ว่าชีวิตและทรัพย์สินของเราจะปลอดภัยจากภัยร้ายเหล่านี้ การป้องกันสามารถทำได้ตั้งแต่ระดับบุคคลไปจนถึงระดับองค์กร ซึ่งแนวทางการป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ามีดังนี้

การป้องกันเบื้องต้นในบ้านและสำหรับทุกคน

ความปลอดภัยเริ่มต้นที่บ้าน การสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยจากไฟฟ้าเป็นความรับผิดชอบของทุกคนในครอบครัว การใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงจากอันตรายจากไฟฟ้าได้อย่างมาก

ตรวจสอบอุปกรณ์และสายไฟเป็นประจำ

หมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าและสายไฟภายในบ้านอย่างสม่ำเสมอ มองหาร่องรอยความเสียหาย เช่น สายไฟเปื่อย กรอบแตก ฉนวนชำรุด หรือรอยไหม้ หากพบควรรีบเปลี่ยนหรือซ่อมแซมโดยช่างผู้ชำนาญทันที การดูแลอุปกรณ์ไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพดีเสมอ เป็นการป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าที่สำคัญ

เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน (มอก.)

ควรเลือกซื้อและใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับเครื่องหมายรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) เท่านั้น เพราะเป็นเครื่องหมายที่การันตีว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ ผ่านการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยแล้ว การใช้ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานจะช่วยลดความเสี่ยงจากวัสดุที่ไม่มีคุณภาพหรือการออกแบบที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งอาจนำไปสู่อันตรายจากไฟฟ้า

ความสำคัญของสายดินและเครื่องตัดไฟรั่ว (RCD/RCBO)

สายดิน (Ground Wire) เป็นส่วนสำคัญของระบบไฟฟ้าที่ช่วยป้องกันไฟฟ้าดูดโดยจะนำกระแสไฟฟ้าที่รั่วไหลลงสู่ดิน ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบไฟฟ้าในบ้านมีการติดตั้งสายดินอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่ว (RCD/RCBO) จะช่วยตัดวงจรไฟฟ้าทันทีเมื่อตรวจพบไฟรั่ว ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญในการป้องกันอันตรายจากไฟฟ้า โดยเฉพาะไฟฟ้าดูด

ข้อควรระวังในการใช้ไฟฟ้าใกล้แหล่งน้ำและความชื้น

หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในบริเวณที่เปียกชื้นหรือใกล้แหล่งน้ำ เช่น ห้องน้ำ หรือขณะที่ร่างกายเปียก หากจำเป็นต้องใช้ ควรเลือกอุปกรณ์ที่ออกแบบมาสำหรับพื้นที่เปียกชื้นโดยเฉพาะ และเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ อย่าสัมผัสสวิตช์หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าด้วยมือที่เปียก เพราะน้ำและความชื้นเป็นตัวนำไฟฟ้าชั้นดีที่เพิ่มความเสี่ยงต่ออันตรายจากไฟฟ้า

การให้ความรู้แก่สมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะเด็ก

สอนให้ทุกคนในบ้าน โดยเฉพาะเด็กๆ รู้จักอันตรายจากไฟฟ้าและวิธีใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างปลอดภัย เช่น ไม่นำสิ่งของแหย่เข้าไปในเต้ารับ ไม่ดึงสายไฟเพื่อถอดปลั๊ก และแจ้งผู้ใหญ่ทันทีเมื่อพบเห็นความผิดปกติของอุปกรณ์ไฟฟ้าการสร้างความตระหนักรู้เป็นเกราะป้องกันที่สำคัญสำหรับทุกคน

มาตรการป้องกันสำหรับอาคาร สถานประกอบการ และโรงงาน

สำหรับอาคารขนาดใหญ่ สถานประกอบการ หรือโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมีการใช้ไฟฟ้าในปริมาณมากและระบบที่ซับซ้อน จำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าที่เข้มงวดและเป็นระบบ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของบุคลากรและทรัพย์สิน

การออกแบบและติดตั้งระบบไฟฟ้าโดยผู้เชี่ยวชาญ

ระบบไฟฟ้าทั้งหมดในอาคารควรได้รับการออกแบบและติดตั้งโดยวิศวกรไฟฟ้าหรือช่างไฟฟ้าที่มีความรู้ความชำนาญและมีใบอนุญาตถูกต้อง การเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน การคำนวณโหลดไฟฟ้า และการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันต่างๆ เช่น เซอร์กิตเบรกเกอร์ และระบบสายดินต้องเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนดโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อลดความเสี่ยงอันตรายจากไฟฟ้า

การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance)

ควรมีการวางแผนบำรุงรักษาเชิงป้องกันสำหรับระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบ การทดสอบ การทำความสะอาด และการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เสื่อมสภาพตามระยะเวลาที่กำหนด การทำ Preventive Maintenance จะช่วยตรวจจับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นล่วงหน้าและ ป้องกัน ไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง เช่น ไฟฟ้าดับ ไฟฟ้าลัดวงจร หรือ อัคคีภัย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการ อันตรายจากไฟฟ้า อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุปอันตรายจากไฟฟ้า มีอะไรบ้าง

สรุปบทความ

โดยสรุปแล้วอันตรายจากไฟฟ้า มีอะไรบ้างนั้นมีหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ ไฟฟ้าดูด แผลไหม้ ไปจนถึง อัคคีภัย และการระเบิด การตระหนักถึงสาเหตุและการรู้วิธี ป้องกัน ที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อความปลอดภัยในชีวิตประจำวัน ทั้งการเลือกใช้ อุปกรณ์ไฟฟ้า ที่มีคุณภาพ การติดตั้งที่ได้มาตรฐาน และการใช้งานอย่างระมัดระวัง สำหรับอาคารและสถานประกอบการ 

การดูแลระบบไฟฟ้าอย่างมืออาชีพเป็นสิ่งจำเป็น SUNNY Emergency Light มีอุปกรณ์ตู้ควบคุมไฟฟ้าฉุกเฉินคุณภาพสูง ทั้งรุ่น Central Unit (CCU) 12V, 24V และ Inverter (INV) 220V ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่เป็นระบบสำรองไฟกลางให้กับโคมไฟหลายจุดทั่วทั้งอาคาร เมื่อระบบไฟฟ้าหลักขัดข้อง ตู้ควบคุมของเราจะจ่ายไฟให้หลอดไฟเหล่านั้นกลายเป็นแสงสว่างฉุกเฉินทันที เพื่อให้แสงสว่างในเส้นทางสำคัญ ลดความเสี่ยงและอุบัติเหตุในความมืด ทำให้ผู้ที่อยู่ในอาคารปลอดภัย มั่นใจได้ในมาตรฐานและความปลอดภัยเมื่อเลือกใช้อุปกรณ์จาก SUNNY ที่ช่วยเสริมความปลอดภัยให้ระบบไฟฟ้าของคุณ ลดความเสี่ยงจาก อันตรายจากไฟฟ้า มั่นใจได้ในมาตรฐานและความปลอดภัย

สนใจสั่งซื้อสินค้าออนไลน์จาก SUNNY ได้ที่

หรือเลือกซื้อสินค้าผ่านร้านโมเดิร์นเทรดอย่าง ไทวัสดุ โฮมโปร เมกะโฮม Bean & Beyond หรือ ตัวแทนจำหน่ายไฟฉุกเฉิน SUNNY ใกล้บ้านคุณ และหากคุณมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับโคมไฟฉุกเฉิน และอุปกรณ์อื่น ๆ สามารถติดต่อเราได้ที่ 02-378-1034