ปัจจุบันโคมไฟฉุกเฉิน ไม่ได้มีดีแค่ให้แสงสว่างยามเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แต่ยังได้รับการพัฒนาให้มีคุณสมบัติพิเศษเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายและเพิ่มความทนทานให้พร้อมรับมือทุกสภาวะ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ต้องเผชิญกับฤดูฝนเป็นประจำโคมไฟกันน้ำคือหนึ่งในตัวเลือกสำคัญที่ช่วยสร้างความปลอดภัยและความอุ่นใจ ติดตามรายละเอียดทั้งหมดได้ในบทความนี้
โคมไฟกันน้ำคืออะไร? ทำความเข้าใจก่อนเลือกใช้
โคมไฟกันน้ำ คือ อุปกรณ์ให้แสงสว่างที่ถูกออกแบบและผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษ โดยมีคุณสมบัติในการป้องกันน้ำ ของเหลว หรือความชื้นไม่ให้แทรกซึมเข้าไปทำความเสียหายต่อวงจรไฟฟ้าภายใน ซึ่งระดับความสามารถในการกันน้ำนั้นจะแตกต่างกันไปตามมาตรฐานการป้องกัน (IP Rating) ที่ระบุไว้ ทำให้โคมไฟกันน้ำกันฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้ในสภาวะแวดล้อมที่เปียกชื้นหรือมีความเสี่ยงที่จะสัมผัสกับน้ำโดยตรง
มาตรฐาน IP Rating คืออะไร?
มาตรฐาน IP Rating (Ingress Protection Rating) คือ ค่ามาตรฐานสากลที่ใช้วัดระดับความสามารถในการป้องกันของแข็ง (เช่น ฝุ่นละออง การสัมผัสโดยบังเอิญ) และของเหลว (เช่น น้ำ) ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องจักรต่างๆ รวมถึงโคมไฟฉุกเฉินด้วย มาตรฐานนี้ถูกพัฒนาขึ้นโดย IEC (International Electrotechnical Commission) โดยจะแสดงด้วยตัวอักษร “IP” ตามด้วยตัวเลขสองหลัก หรืออาจมีตัวอักษรเสริมต่อท้ายในบางกรณี เพื่อระบุระดับการป้องกันที่เฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น
ตัวเลขหลักที่ 1 การป้องกันของแข็ง (Solid Particle Protection)
ตัวเลขหลักแรกนี้จะบ่งบอกถึงระดับการป้องกันของเปลือกหุ้มอุปกรณ์ต่อการแทรกซึมของของแข็ง รวมถึงการป้องกันการสัมผัสชิ้นส่วนอันตรายภายในโดยส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น นิ้วมือ หรือเครื่องมือต่างๆ มีระดับดังนี้
- 0: ไม่มีการป้องกันใดๆ
- 1: ป้องกันของแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่า 50 มม. ขึ้นไป (เช่น การสัมผัสโดยบังเอิญด้วยมือ)
- 2: ป้องกันของแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่า 12.5 มม. ขึ้นไป (เช่น นิ้วมือ)
- 3: ป้องกันของแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่า 2.5 มม. ขึ้นไป (เช่น เครื่องมือ สายไฟขนาดเล็ก)
- 4: ป้องกันของแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่า 1 มม. ขึ้นไป (เช่น เครื่องมือ สายไฟ เส้นลวด แมลงขนาดเล็ก)
- 5: ป้องกันฝุ่นได้ในระดับหนึ่ง (Limited dust ingress) โดยฝุ่นที่เล็ดลอดเข้าไปต้องไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของอุปกรณ์
- 6: ป้องกันฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์ (Dust-tight) ไม่มีการแทรกซึมของฝุ่นเข้าไปได้
ตัวเลขหลักที่ 2 การป้องกันของเหลว (Liquid Ingress Protection)
ตัวเลขหลักที่สองนี้จะบ่งบอกถึงระดับการป้องกันของเปลือกหุ้มอุปกรณ์ต่อการแทรกซึมของน้ำในรูปแบบต่างๆ มีระดับดังนี้
- 0: ไม่มีการป้องกันใดๆ
- 1: ป้องกันหยดน้ำที่ตกลงมาในแนวดิ่ง (Vertically dripping water)
- 2: ป้องกันหยดน้ำที่ตกลงมาในแนวเฉียงทำมุม 15 องศาจากแนวดิ่ง
- 3: ป้องกันละอองน้ำหรือน้ำฝนที่ตกลงมาในแนวเฉียงทำมุม 60 องศาจากแนวดิ่ง (Spraying water)
- 4: ป้องกันละอองน้ำได้จากทุกทิศทาง (Splashing water)
- 5: ป้องกันน้ำจากการฉีดที่ตัวอุปกรณ์ได้จากทุกทิศทางด้วยหัวฉีดขนาด 6.3 มม. (Water jets)
- 6: ป้องกันน้ำจากการฉีดแบบรุนแรงที่ตัวอุปกรณ์ได้จากทุกทิศทางด้วยหัวฉีดขนาด 12.5 มม. (Powerful water jets)
- 6K: ป้องกันน้ำจากการฉีดแรงดันสูงพิเศษ (Powerful water jets with increased pressure) ด้วยหัวฉีดขนาด 6.3 มม. แรงดัน 1,000 kPa (10 bar)
- 7: ป้องกันการแทรกซึมของน้ำจากการแช่ตัวอุปกรณ์ในน้ำได้ลึกสูงสุด 1 เมตร เป็นระยะเวลาสูงสุด 30 นาที (Immersion up to 1m)
- 8: ป้องกันการแทรกซึมของน้ำจากการแช่ตัวอุปกรณ์ในน้ำได้ลึกมากกว่า 1 เมตร และเป็นเวลานานภายใต้แรงดันที่ผู้ผลิตกำหนด (Continuous immersion beyond 1m)
- 9K: ป้องกันน้ำจากการฉีดแรงดันสูงและอุณหภูมิสูงพิเศษที่ตัวอุปกรณ์ได้จากทุกทิศทาง มักใช้กับอุปกรณ์ที่ต้องการความสะอาดสูง (High-pressure/temperature water jets, steam jet cleaning)
ตัวอย่างมาตรฐาน IP Rating ที่พบบ่อย
- IP54: ป้องกันฝุ่นได้ในระดับหนึ่ง (เลข 5) และป้องกันละอองน้ำได้จากทุกทิศทาง (เลข 4) เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่อาจเจอฝุ่นและน้ำกระเซ็นบ้าง
- IP65: ป้องกันฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์ (เลข 6) และป้องกันน้ำจากการฉีดได้จากทุกทิศทาง (เลข 5) เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นมากและอาจมีการฉีดน้ำทำความสะอาด
- IP66: ป้องกันฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์ (เลข 6) และป้องกันน้ำจากการฉีดแบบรุนแรงได้จากทุกทิศทาง (เลข 6) ทนทานต่อสภาพอากาศและน้ำฝนได้ดี
- IP67: ป้องกันฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์ (เลข 6) และป้องกันการจมน้ำชั่วคราวที่ความลึกไม่เกิน 1 เมตร นาน 30 นาที (เลข 7) เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่อาจเสี่ยงตกน้ำหรือจมน้ำในช่วงเวลาสั้นๆ
- IP68: ป้องกันฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์ (เลข 6) และป้องกันการจมน้ำแบบถาวรภายใต้เงื่อนไขที่ผู้ผลิตกำหนด (เลข 8) สำหรับอุปกรณ์ที่ต้องทำงานใต้น้ำ
- IP69K: ป้องกันฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์ (เลข 6) และป้องกันน้ำแรงดันสูงและอุณหภูมิสูงพิเศษ (เลข 9K) สำหรับงานที่ต้องการการทำความสะอาดอย่างเข้มงวด เช่น ในอุตสาหกรรมอาหารหรือยานยนต์
ทำไมโคมไฟกันน้ำถึงสำคัญ โดยเฉพาะในหน้าฝน
ในช่วงหน้าฝน ความชื้นในอากาศสูงและมีโอกาสที่ฝนจะสาดเข้ามาในอาคาร หรือเกิดน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ได้ โคมไฟฉุกเฉินกันน้ำจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดเพื่อความปลอดภัยและต่อเนื่องในการใช้งาน ด้วยเหตุผลดังนี้
- ป้องกันความเสียหายจากน้ำ โคมไฟกันน้ำช่วยป้องกันวงจรภายในจากความชื้นและน้ำ ลดความเสี่ยงที่ไฟฟ้าจะลัดวงจรหรืออุปกรณ์เสียหาย ช่วยยืดอายุการใช้งานแม้ติดตั้งในจุดที่เสี่ยงต่อการโดนน้ำ เช่น ใกล้ประตู หน้าต่าง หรือพื้นที่ภายนอกอาคาร
- เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้งาน ลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าดูดหรืออันตรายอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นหากโคมไฟฉุกเฉินทั่วไปสัมผัสกับน้ำโดยตรง ทำให้มั่นใจได้ว่าระบบไฟฉุกเฉินจะทำงานได้อย่างปลอดภัยเมื่อต้องการใช้งานจริง
- มั่นใจได้ในทุกสถานการณ์ แม้ในสภาวะอากาศเลวร้าย ฝนตกหนัก หรือมีความชื้นสูง โคมไฟฉุกเฉินกันน้ำก็ยังคงทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้ไม่พลาดการให้แสงสว่างในยามฉุกเฉิน ซึ่งสำคัญต่อการอพยพหรือเคลื่อนย้าย
- ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ด้วยคุณสมบัติทนทานต่อน้ำและกันฝุ่น ทำให้โคมไฟกันน้ำมีความคงทนสูงกว่า ลดความถี่ในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้อย่างเห็นผล
- ตอบโจทย์การติดตั้งหลากหลายพื้นที่ สามารถติดตั้งได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร รวมถึงพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น โรงจอดรถ ห้องใต้ดิน หรือบริเวณใกล้เคียงกับแหล่งน้ำ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเสียหายจากน้ำ
ข้อดีและประโยชน์ของโคมไฟฉุกเฉินกันน้ำ
- ความทนทานสูง สามารถทนต่อสภาวะแวดล้อมที่เปียกชื้นหรือมีโอกาสสัมผัสน้ำได้ดีกว่าโคมไฟทั่วไป
- ความปลอดภัยที่เหนือกว่า ลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟฟ้าดูดเมื่อเกิดการรั่วซึมของน้ำ
- อายุการใช้งานยาวนาน การป้องกันน้ำและฝุ่นช่วยลดการสึกหรอของชิ้นส่วนภายใน
- ความอเนกประสงค์ในการติดตั้ง เหมาะสำหรับติดตั้งในพื้นที่หลากหลาย ทั้งภายใน ภายนอกอาคาร หรือบริเวณที่มีความชื้นสูง
- ลดความกังวลในช่วงหน้าฝน มั่นใจได้ว่าโคมไฟฉุกเฉินจะทำงานได้แม้ในวันที่ฝนตกหนักหรือมีความชื้นสูง
- คุ้มค่าในระยะยาว แม้จะมีราคาสูงกว่าเล็กน้อย แต่ความทนทานและค่าบำรุงรักษาที่ต่ำกว่าทำให้คุ้มค่ากว่า
เลือกโคมไฟฉุกเฉินกันน้ำอย่างไรให้คุ้มค่าและปลอดภัย
การเลือกโคมไฟฉุกเฉินกันน้ำที่เหมาะสมนั้น จำเป็นต้องพิจารณาหลายปัจจัย เพื่อให้มั่นใจได้ว่าโคมไฟที่เลือกมานั้นสามารถตอบโจทย์การใช้งาน ให้ความสว่างเพียงพอ และมีความปลอดภัยสูงสุด คุ้มค่ากับการลงทุน โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้งานในสภาวะที่อาจมีความเสี่ยงจากน้ำและความชื้น
ตรวจสอบมาตรฐาน IP Rating
สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาคือ มาตรฐาน IP Rating โดยเฉพาะตัวเลขหลักที่สองซึ่งบ่งบอกถึงความสามารถในการป้องกันน้ำ หากต้องการโคมไฟฉุกเฉินที่สามารถทนทานต่อฝนสาดหรือการฉีดน้ำทำความสะอาดได้ดี ควรเลือกมาตรฐาน IP66 ขึ้นไป หรือหากมีความเสี่ยงที่อาจจมน้ำชั่วคราว การเลือกมาตรฐาน IP Rating ที่เหมาะสมจะให้ความมั่นใจได้มากกว่า
พิจารณาความสว่างและระยะเวลาการใช้งาน
ความสว่างของโคมไฟฉุกเฉิน (วัดเป็นลูเมน) ควรเพียงพอต่อพื้นที่ที่ต้องการใช้งาน และต้องสามารถให้แสงสว่างต่อเนื่องได้ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หรือนานพอสำหรับการอพยพออกจากพื้นที่ได้อย่างปลอดภัย ตรวจสอบข้อมูลแบตเตอรี่ ชนิดของแบตเตอรี่ และระยะเวลาการสำรองไฟให้ถี่ถ้วน
เลือกจากคุณสมบัติและการใช้งานที่เหมาะสม
พิจารณาคุณสมบัติเสริมอื่นๆ เช่น ระบบทดสอบการทำงานอัตโนมัติ (Automatic Test System), ชนิดของหลอดไฟ (LED ให้แสงสว่างสูงและประหยัดพลังงาน), วัสดุที่ใช้ผลิตตัวโคมว่ามีความแข็งแรงทนทานต่อสภาพแวดล้อมหรือไม่ รวมถึงลักษณะการติดตั้งว่าเหมาะสมกับพื้นที่หน้างานหรือไม่ เช่น ติดผนัง หรือติดเพดาน
เลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและมีการรับประกัน
การเลือกซื้อโคมไฟฉุกเฉินกันน้ำจากแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักและน่าเชื่อถือ เช่น SUNNY จะช่วยให้มั่นใจได้ในคุณภาพของสินค้าและมาตรฐานการผลิต นอกจากนี้ ควรพิจารณาเรื่องการรับประกันสินค้าและบริการหลังการขาย เพื่อความอุ่นใจหากเกิดปัญหาในการใช้งานในอนาคต แบรนด์ที่น่าเชื่อถือมักจะมีข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจนและผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม
สรุปบทความ
โคมไฟกันน้ำคืออุปกรณ์สำคัญที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและให้แสงสว่างในยามฉุกเฉิน โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนหรือในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง การเลือกโคมไฟฉุกเฉินที่มีมาตรฐาน IP Rating เหมาะสม ความสว่างเพียงพอ และมาจากแบรนด์ที่ไว้ใจได้อย่าง SUNNY ที่มีโคมไฟฉุกเฉินหลากหลายรุ่นมาพร้อมคุณสมบัติการป้องกันละอองน้ำและกันฝุ่นในระดับสูงถึง IP66 เช่น รุ่น SG-IP66, รุ่น CU-IP66 และป้ายทางออกหนีไฟรุ่น EXST-IP66 จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าระบบไฟฉุกเฉินของคุณพร้อมรับมือทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
สนใจสั่งซื้อสินค้าออนไลน์จาก SUNNY ได้ที่
- ร้านค้า ShopeeMall บน Shopee
- ร้านค้า LazMall บน LAZADA
- ร้านค้า NocNoc บน NocNoc
- Line Official @SunnyThailand
- Email [email protected]
หรือเลือกซื้อสินค้าผ่านร้านโมเดิร์นเทรดอย่าง ไทวัสดุ โฮมโปร เมกะโฮม Bean & Beyond หรือ ตัวแทนจำหน่ายไฟฉุกเฉิน SUNNY ใกล้บ้านคุณ และหากคุณมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับโคมไฟฉุกเฉิน และอุปกรณ์อื่น ๆ สามารถติดต่อเราได้ที่ 02-378-1034