ในปัจจุบัน ประเทศไทยและทั่วโลกต่างเผชิญกับภัยพิบัติ ในรูปแบบต่างๆ บ่อยครั้งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอุทกภัย วาตภัย หรือแผ่นดินไหว ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้มักเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดและสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตและทรัพย์สิน การมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับประเภทภัยพิบัติและวิธีรับมือภัยพิบัติ จึงเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดที่จะช่วยลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้ ด้วยความห่วงใย Sunny Emergency Light ได้รวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ ภัยพิบัติคืออะไร และ ภัยพิบัติมีอะไรบ้าง พร้อมแนวทางการเตรียมตัวรับมืออย่างถูกวิธี ติดตามได้ในบทความนี้
ภัยพิบัติคืออะไร?
ภัยพิบัติ คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติหรือจากการกระทำของมนุษย์ ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสังคมในวงกว้าง ก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และสิ่งแวดล้อม ซึ่งความเสียหายนั้นมีมากเกินกว่าที่ชุมชนหรือสังคมที่ได้รับผลกระทบจะสามารถจัดการได้ด้วยทรัพยากรที่มีอยู่เพียงลำพัง และจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากภายนอก
รวมประเภทภัยพิบัติทางธรรมชาติมีอะไรบ้างที่ต้องรู้
เพื่อให้ทุกคนเข้าใจว่าภัยพิบัติมีอะไรบ้างและเตรียมความพร้อมรับมือได้อย่างถูกต้อง เราได้รวบรวมภัยพิบัติทางธรรมชาติที่มีโอกาสเกิดขึ้นในประเทศไทยและควรทำความรู้จักไว้ ดังนี้

1. น้ำท่วม
น้ำท่วม เป็นหนึ่งในภัยพิบัติทางธรรมชาติที่พบบ่อยที่สุดในประเทศไทย เกิดจากสภาวะน้ำล้นตลิ่งหรือมีปริมาณน้ำสะสมบนพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งมากเกินกว่าระดับปกติ อาจเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องเป็นเวลานาน น้ำทะเลหนุน หรือการระบายน้ำที่ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อบ้านเรือน พื้นที่เกษตรกรรม และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
วิธีรับมือน้ำท่วม
การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยลดความเสียหายได้มาก สิ่งสำคัญคือการติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างสม่ำเสมอ และนี่คือวิธีรับมือภัยพิบัติเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วม
- ก่อนเกิดเหตุ
- ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากกรมอุตุนิยมวิทยา
- ขนย้ายสิ่งของมีค่า เครื่องใช้ไฟฟ้า และเอกสารสำคัญขึ้นที่สูง
- เตรียมอุปกรณ์จำเป็น เช่น ไฟฉาย น้ำดื่ม อาหารแห้ง และยารักษาโรค
- เรียนรู้เส้นทางอพยพที่ปลอดภัยในพื้นที่ของคุณ
- ขณะเกิดเหตุ
- ตัดสะพานไฟเพื่อป้องกันไฟฟ้ารั่วหรือไฟฟ้าลัดวงจร
- อพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยหรือศูนย์พักพิงที่ทางการจัดเตรียมไว้
- หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำหรือขับขี่ยานพาหนะฝ่าน้ำท่วม เพราะอาจมีกระแสน้ำแรงและอันตรายจากสัตว์มีพิษ
- งดใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปียกน้ำโดยเด็ดขาด
- หลังเกิดเหตุ
- ตรวจสอบความเสียหายของที่พักอาศัยและโครงสร้างอย่างละเอียด
- ทำความสะอาดบ้านเรือนและฆ่าเชื้อโรคเพื่อป้องกันโรคระบาด
- ระวังสัตว์อันตรายที่อาจมากับน้ำ เช่น งู หรือตะขาบ
2. พายุ
พายุ หรือวาตภัย เป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดจากความแปรปรวนของสภาพอากาศ ทำให้เกิดลมพายุพัดรุนแรง ฝนตกหนัก และอาจมีฟ้าผ่าร่วมด้วยในบางครั้ง โดยเฉพาะพายุฤดูร้อนและพายุหมุนเขตร้อนที่เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งสามารถสร้างความเสียหายแก่อาคารบ้านเรือน ต้นไม้ และเสาไฟฟ้าได้เป็นวงกว้าง
วิธีรับมือพายุหรือวาตภัย
เมื่อทราบข่าวการมาของพายุการเตรียมความพร้อมคือสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อให้คุณและครอบครัวปลอดภัยจากวาตภัย นี่คือข้อควรปฏิบัติที่ทุกคนควรรู้
- ก่อนเกิดเหตุ
- ตรวจสอบความแข็งแรงของบ้านเรือน หลังคา และประตูหน้าต่าง
- ตัดแต่งกิ่งไม้ที่อาจหักโค่นทับบ้านหรือสายไฟ
- เก็บสิ่งของที่อาจปลิวตามลมได้ง่ายเข้าที่ร่ม
- สำรองไฟฉุกเฉินและอุปกรณ์สื่อสารให้พร้อมใช้งาน
- ขณะเกิดเหตุ
- อยู่ในอาคารที่แข็งแรง ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ หรือป้ายโฆษณา
- ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าและงดใช้โทรศัพท์มือถือขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง
- หลังเกิดเหตุ
- สำรวจความเสียหายรอบบ้านด้วยความระมัดระวัง
- ระวังอันตรายจากสายไฟที่ขาดหรือเสาไฟฟ้าที่ล้ม
- ติดตามประกาศจากหน่วยงานราชการเพื่อขอความช่วยเหลือ

3. แผ่นดินไหว
แผ่นดินไหว เป็นภัยพิบัติที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของพื้นดิน อันเนื่องมาจากการปลดปล่อยพลังงานเพื่อลดความเครียดที่สะสมไว้ภายในโลก แม้ประเทศไทยจะไม่ได้ตั้งอยู่บนรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกโดยตรง แต่บางพื้นที่โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันตกก็มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวขนาดเล็กถึงปานกลางได้
วิธีรับมือแผ่นดินไหว
แม้จะคาดการณ์ได้ยาก แต่การเรียนรู้วิธีรับมือภัยพิบัติอย่างแผ่นดินไหว จะช่วยให้คุณตั้งสติและเอาตัวรอดจากสถานการณ์ได้อย่างปลอดภัย
- ก่อนเกิดเหตุ
- ยึดเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่และของตกแต่งที่อาจล้มหรือหล่นลงมาได้ให้แน่นหนา
- วางแผนจุดนัดพบที่ปลอดภัยกับสมาชิกในครอบครัว
- จัดเตรียมชุดอุปกรณ์ฉุกเฉินไว้ในจุดที่หยิบใช้ได้สะดวก
- ขณะเกิดเหตุ
- ถ้าอยู่ในอาคาร ให้หมอบใต้โต๊ะหรือที่กำบังที่แข็งแรง, อยู่ห่างจากหน้าต่างและประตู, ห้ามใช้ลิฟต์โดยเด็ดขาด
- ถ้าอยู่กลางแจ้ง ให้อยู่ในที่โล่ง ห่างจากอาคาร ต้นไม้ และเสาไฟฟ้า
- หลังเกิดเหตุ
- ตรวจสอบการบาดเจ็บของตนเองและคนรอบข้าง
- เตรียมพร้อมรับมืออาฟเตอร์ช็อก (Aftershock) ที่อาจเกิดขึ้นตามมา
- ออกจากอาคารที่เสียหายทันที และไปรวมตัวกันที่จุดนัดพบที่ปลอดภัย
4. ดินโคลนถล่ม
ดินโคลนถล่ม คือการเคลื่อนตัวของมวลดิน หิน และโคลนลงมาตามความลาดชันของพื้นที่ มักเกิดขึ้นหลังมีฝนตกหนักต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทำให้น้ำซึมลงไปในดินจนอุ้มน้ำไม่ไหวภัยพิบัติทางธรรมชาติประเภทนี้มักเกิดในพื้นที่ลาดชันเชิงเขาและเป็นอันตรายร้ายแรง เนื่องจากความเร็วและความรุนแรงของการถล่ม
วิธีรับมือดินโคลนถล่ม
สำหรับผู้ที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย การสังเกตสัญญาณเตือนล่วงหน้าเป็นทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งในการเอาชีวิตรอดจากดินโคลนถล่ม
- สัญญาณเตือน
- มีฝนตกหนักต่อเนื่องนานกว่า 6 ชั่วโมง
- ระดับน้ำในลำห้วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และสีของน้ำเปลี่ยนเป็นสีดิน
- มีเสียงดังผิดปกติมาจากภูเขาหรือลำห้วย
- การอพยพ
- เมื่อสังเกตเห็นสัญญาณเตือนภัย ให้อพยพออกจากพื้นที่ทันทีไปยังที่ปลอดภัยที่จัดเตรียมไว้
- ห้ามเข้าใกล้หรือกลับเข้าไปในพื้นที่ประสบภัยจนกว่าจะได้รับการยืนยันว่าปลอดภัย
- แจ้งหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อขอความช่วยเหลือและแจ้งเตือนผู้อื่น
5. สึนามิ

สึนามิ คือกลุ่มคลื่นขนาดใหญ่ที่เกิดจากการเคลื่อนตัวของมวลน้ำในปริมาณมหาศาล ซึ่งมักมีสาเหตุมาจากแผ่นดินไหวรุนแรงใต้ทะเล การระเบิดของภูเขาไฟใต้ทะเล หรือดินถล่มใต้ทะเล คลื่นสึนามิสามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงในทะเลลึก และจะเพิ่มความสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเคลื่อนเข้าสู่ชายฝั่ง สร้างพลังทำลายล้างที่รุนแรงอย่างยิ่ง
วิธีรับมือสึนามิ
การรู้จักสัญญาณเตือนและปฏิบัติตามแนวทางอพยพอย่างเคร่งครัด คือหัวใจสำคัญของการรอดชีวิตจากสึนามิ ซึ่งเป็นหนึ่งในภัยพิบัติที่ร้ายแรงที่สุด
- สัญญาณเตือน
- เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงจนรู้สึกได้
- ระดับน้ำทะเลลดลงอย่างรวดเร็วผิดปกติ
- ได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงรถไฟหรือเครื่องบินเจ็ตมาจากทะเล
- มีประกาศเตือนภัยสึนามิจากทางการ
- แนวทางปฏิบัติ
- เมื่อรู้สึกถึงแผ่นดินไหวรุนแรงหรือเห็นน้ำทะเลลดระดับ ให้รีบอพยพขึ้นที่สูงและหนีห่างจากชายฝั่งให้เร็วที่สุด โดยไม่ต้องรอประกาศเตือน
- ปฏิบัติตามป้ายบอกเส้นทางหนีคลื่นสึนามิ
- อยู่บนที่สูงและรอจนกว่าจะมีประกาศว่าสถานการณ์ปลอดภัยแล้ว
ช่องทางติดต่อและขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน
ในสถานการณ์ฉุกเฉิน การติดต่อขอความช่วยเหลืออย่างรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ควรบันทึกเบอร์โทรฉุกเฉินเหล่านี้ไว้ในโทรศัพท์ของคุณเสมอ
- 199: แจ้งเหตุดับเพลิงและสาธารณภัย
- 1669: สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (เจ็บป่วยฉุกเฉิน)
- 1784: กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)
- 1193: ตำรวจทางหลวง
- 1554: หน่วยแพทย์กู้ชีวิต วชิรพยาบาล

สรุปบทความ
จากข้อมูลทั้งหมดจะเห็นได้ว่าภัยพิบัติทางธรรมชาติ เป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรากว่าที่คิด การเรียนรู้ว่าภัยพิบัติมีอะไรบ้างและเตรียมความพร้อมรับมืออยู่เสมอจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม และหนึ่งในอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดที่ทุกบ้านและอาคารควรมีเพื่อความปลอดภัยในยามฉุกเฉิน โดยเฉพาะเมื่อเกิดไฟฟ้าดับอย่างโคมไฟฉุกเฉินที่ได้มาตรฐาน เตรียมพร้อมรับมือทุกภัยพิบัติ SUNNY ในฐานะผู้นำด้านระบบแสงสว่างฉุกเฉิน ขอแนะนำ โคมไฟฉุกเฉิน รุ่น SG Series ที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุดในทุกสถานการณ์
- ทำงานอัตโนมัติ สำรองไฟทันทีเมื่อไฟฟ้าดับ
- หลอด LED คุณภาพสูง ให้แสงสว่างที่ยาวนานและประหยัดพลังงาน
- แบตเตอรี่ทนทาน สำรองไฟได้นานสูงสุด 3 ชั่วโมง
สนใจสั่งซื้อสินค้าออนไลน์จาก SUNNY ได้ที่
- ร้านค้า ShopeeMall บน Shopee
- ร้านค้า LazMall บน LAZADA
- ร้านค้า NocNoc บน NocNoc
- Line Official @SunnyThailand
- Email [email protected]
หรือเลือกซื้อสินค้าผ่านร้านโมเดิร์นเทรดอย่าง ไทวัสดุ โฮมโปร เมกะโฮม Bean & Beyond หรือ ตัวแทนจำหน่ายไฟฉุกเฉิน SUNNY ใกล้บ้านคุณ และหากคุณมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับโคมไฟฉุกเฉิน และอุปกรณ์อื่น ๆ สามารถติดต่อเราได้ที่ 02-378-1034