Skip to content

รวมกฎหมายการติดตั้งถังดับเพลิงล่าสุด เจ้าของบ้านและอาคารต้องรู้

รวมกฎหมายการติดตั้งถังดับเพลิงล่าสุด

การติดตั้งถังดับเพลิงไม่ใช่เป็นเพียงการเตรียมพร้อมเพื่อความปลอดภัยส่วนตัว แต่ยังเป็นข้อบังคับทางกฎหมายที่ชัดเจนสำหรับอาคารและสถานประกอบการ การละเลยอาจนำไปสู่ความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงบทลงโทษทางกฎหมาย โดยปัจจุบันกฎหมายการติดตั้งถังดับเพลิงมีการปรับปรุงและอ้างอิงมาตรฐานที่ทันสมัยอยู่เสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกพื้นที่มีการป้องกันอัคคีภัยขั้นพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพ บทความนี้จาก SUNNY จะสรุปกฎหมายถังดับเพลิงล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้งสำหรับบ้าน อาคาร และสำนักงาน ว่าต้องปฏิบัติตามมาตรฐานใดบ้าง

กฎหมายถังดับเพลิงล่าสุด อ้างอิงฉบับไหนบ้าง

เพื่อให้การติดตั้งเป็นไปอย่างถูกต้อง การทำความเข้าใจที่มาของข้อบังคับเป็นสิ่งสำคัญ โดยกฎหมายถังดับเพลิงล่าสุดและมาตรฐานที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย จะอ้างอิงหลักๆ จาก 3 แหล่ง ดังนี้

กฎกระทรวงควบคุมอาคาร (สำหรับอาคารและสำนักงาน)

กฎกระทรวงฉบับที่ 33 (พ.ศ. 2535) และฉบับที่ 47 (พ.ศ. 2540) ออกตามความใน พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ถือเป็นกฎหมายหลักที่กำหนดมาตรฐานระบบป้องกันอัคคีภัยสำหรับ “อาคารสูง” และ “อาคารขนาดใหญ่พิเศษ” กฎหมายนี้บังคับให้ต้องมีระบบดับเพลิงอัตโนมัติ (เช่น Sprinkler) และระบบท่อยืน (Standpipe) ควบคู่ไปกับการติดตั้งเครื่องดับเพลิงแบบมือถือ (ถังดับเพลิง) ตามจุดต่างๆ ที่เหมาะสม

ประกาศกระทรวงมหาดไทย (สำหรับสถานประกอบการ)

ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การป้องกันและระงับอัคคีภัยในสถานประกอบการ เพื่อความปลอดภัยในการทำงานสำหรับลูกจ้าง (ฉบับล่าสุด พ.ศ. 2555) เป็นข้อบังคับหลักสำหรับ “นายจ้าง” และ “สถานประกอบการ” ทุกประเภท (เช่น สำนักงาน, โรงงาน) กฎหมายนี้กำหนดรายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับชนิด จำนวน และมาตรฐานการติดตั้งเครื่องดับเพลิงแบบมือถือ รวมถึงการบำรุงรักษาและการฝึกอบรม นี่คือกฎหมายถังดับเพลิงล่าสุดที่ผู้ประกอบการต้องยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

มาตรฐาน วสท. (มาตรฐานประกอบ)

แม้มาตรฐานของ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) จะไม่ใช่ตัวบทกฎหมายโดยตรง แต่กฎหมายหลายฉบับ เช่น กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัยฯ (พ.ศ. 2549) มักจะ “อ้างอิง” หรือ “แนบท้าย” มาตรฐานของ วสท. ให้เป็นแนวทางปฏิบัติ (Code of Practice) ที่ยอมรับ ดังนั้น การติดตั้งตามมาตรฐาน วสท. จึงเปรียบเสมือนการปฏิบัติตามกฎหมายการติดตั้งถังดับเพลิงในทางเทคนิคเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด

มาตรฐานการติดตั้งถังดับเพลิงที่ถูกต้องตามกฎหมาย

การติดตั้งถังดับเพลิงไม่ใช่แค่การนำไปแขวนไว้ที่ใดก็ได้ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้สามารถเข้าถึงและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

1. เลือกประเภทถังดับเพลิง ให้เหมาะกับพื้นที่

สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการเลือกชนิดของสารดับเพลิงให้ถูกต้องตามประเภทของเชื้อเพลิงในพื้นที่นั้นๆ (Fire Classification) เพื่อให้ดับไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่ก่อให้เกิดอันตรายเพิ่ม

  • Class A: เพลิงไหม้ที่เกิดจากเชื้อเพลิงทั่วไป เช่น ไม้ กระดาษ ผ้า (เหมาะกับถังน้ำ, โฟม, ผงเคมีแห้ง)
  • Class B: เพลิงไหม้จากของเหลวติดไฟ เช่น น้ำมัน ก๊าซ (เหมาะกับถังโฟม, CO2, ผงเคมีแห้ง)
  • Class C: เพลิงไหม้จากอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ยังมีกระแสไฟ (เหมาะกับถัง CO2, ผงเคมีแห้ง)
  • Class K: เพลิงไหม้จากน้ำมันที่ใช้ในการประกอบอาหาร (เหมาะกับถังสูตรน้ำยาเฉพาะสำหรับ Class K)

2. การคำนวณจำนวนถังดับเพลิง

กฎหมายการติดตั้งถังดับเพลิง ไม่ได้นับจำนวนถังเป็น “ถัง” แต่นับตาม “ความสามารถในการดับเพลิง” (Fire Rating) ซึ่งระบุไว้บนตัวถัง เช่น 2A, 10B

  • A (Class A): ตัวเลขยิ่งมาก ยิ่งดับไฟ Class A ได้มาก (เช่น 2A, 3A, 6A)
  • B (Class B): ตัวเลขยิ่งมาก ยิ่งดับไฟ Class B ได้มาก (เช่น 10B, 20B)

กฎหมาย (เช่น ประกาศกระทรวงมหาดไทย) จะกำหนดว่า ในพื้นที่เสี่ยงภัยระดับต่างๆ (น้อย, ปานกลาง, สูง) ต้องมีค่า Fire Rating รวมกันเท่าใดต่อพื้นที่ (ตารางเมตร) เช่น พื้นที่เสี่ยงภัยน้อย 1,000 ตร.ม. อาจต้องการความสามารถในการดับเพลิงที่ 6A เราอาจใช้ถัง 3A จำนวน 2 ถัง หรือ 6A จำนวน 1 ถังก็ได้

3. ระยะห่างในการติดตั้ง (ต้องไม่เกินกี่เมตร)

เพื่อให้เข้าถึงถังดับเพลิงได้ทันท่วงที กฎหมายกำหนด “ระยะการเข้าถึง” (Travel Distance) หรือระยะเดินจากจุดใดๆ ในพื้นที่ไปยังถังดับเพลิงที่ใกล้ที่สุด

  • พื้นที่เสี่ยงภัยน้อย/ปานกลาง ระยะเข้าถึงไม่เกิน 20 – 22.9 เมตร (หรือประมาณ 75 ฟุต)
  • พื้นที่เสี่ยงภัยสูง ระยะเข้าถึงต้องสั้นลง ไม่เกิน 15 เมตร (หรือประมาณ 50 ฟุต) ดังนั้น ถังดับเพลิงแต่ละจุดจึงต้องติดตั้งห่างกันในระยะที่เหมาะสมตามความเสี่ยงของพื้นที่

4. ความสูงในการติดตั้ง

มาตรฐานการติดตั้งถังดับเพลิงกำหนดความสูงในการติดตั้ง เพื่อให้ทุกคนสามารถหยิบใช้งานได้สะดวกและปลอดภัย

  • ความสูง ระดับสูงสุดของมือจับถังดับเพลิง (สำหรับถังที่หนักไม่เกิน 18 กก.) ต้องสูงจากพื้นไม่เกิน 1.50 เมตร (150 ซม.)
  • ตำแหน่งล่างสุด ฐานของถังดับเพลิงต้องสูงจากพื้นอย่างน้อย 10 ซม. เพื่อป้องกันความชื้น การติดตั้งที่ระดับนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าถังจะไม่สูงเกินไปจนหยิบยาก หรือต่ำเกินไปจนเป็นอุปสรรคกีดขวาง

5. ป้ายสัญลักษณ์และพื้นที่โดยรอบต้องชัดเจน

การติดตั้งถังดับเพลิงต้องสามารถมองเห็นได้ชัดเจน ห้ามมีสิ่งกีดขวาง

  • ป้ายสัญลักษณ์ ต้องมีป้าย “เครื่องดับเพลิง” หรือสัญลักษณ์รูปถังดับเพลิง ติดตั้งไว้เหนือจุดติดตั้ง ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ชัดเจนจากระยะไกล
  • การเข้าถึง ต้องเว้นพื้นที่หน้าถังดับเพลิงให้โล่ง เพื่อให้สามารถเข้าไปหยิบใช้งานได้ทันทีโดยไม่มีสิ่งของวางเกะกะ
  • ป้ายแสดงประเภท ควรมีป้ายแสดงประเภท (A, B, C) และวิธีใช้งานอย่างง่ายติดไว้บริเวณนั้นด้วย

กฎหมายติดตั้งถังดับเพลิงในบ้านและสำนักงาน

ความเข้มงวดของข้อบังคับจะแตกต่างกันไปตามประเภทของอาคาร การทำความเข้าใจข้อกำหนดเฉพาะสำหรับ “บ้าน” และ “สำนักงาน” จะช่วยให้คุณปฏิบัติตามกฎหมายการติดตั้งถังดับเพลิงได้อย่างถูกต้อง

สำหรับอาคารและสำนักงาน

อาคารสำนักงาน, สถานประกอบการ, โรงงาน, หรืออาคารสาธารณะ ถือเป็นพื้นที่บังคับตามกฎหมาย (อ้างอิงประกาศกระทรวงมหาดไทยฯ และกฎกระทรวงควบคุมอาคาร)

  • ข้อบังคับ ต้องติดตั้งถังดับเพลิงตามมาตรฐานที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
  • การคำนวณ ต้องมีการคำนวณความสามารถในการดับเพลิง (A, B) ตามระดับความเสี่ยงและขนาดพื้นที่
  • การตรวจสอบ ต้องมีการตรวจสอบสภาพถังดับเพลิงอย่างสม่ำเสมอโดยผู้ที่ได้รับอนุญาต และต้องมีการจัดทำบันทึกการตรวจสอบ

สำหรับบ้านที่อยู่อาศัย

สำหรับบ้านพักอาศัยส่วนบุคคลทั่วไป (ที่ไม่เข้าข่ายอาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษ) ปัจจุบันยัง “ไม่มี” กฎหมายการติดตั้งถังดับเพลิง บังคับโดยตรง

  • สถานะ ถือเป็น “ข้อแนะนำ” เพื่อความปลอดภัย
  • ข้อแนะนำ ควรมีถังดับเพลิงเคมีแห้ง (Class ABC) ขนาด 10-15 ปอนด์ ติดตั้งไว้ในจุดที่เข้าถึงง่าย อย่างน้อย 1-2 ถัง (เช่น บริเวณห้องครัว หรือทางเข้า-ออกหลัก) เพื่อรับมือเหตุฉุกเฉินเบื้องต้น
การตรวจสอบและบำรุงรักษาถังดับเพลิง

การตรวจสอบและบำรุงรักษาถังดับเพลิง

การปฏิบัติตามกฎหมายการติดตั้งถังดับเพลิงไม่ได้จบแค่การติดตั้ง แต่รวมถึงการบำรุงรักษาให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ กฎหมายถังดับเพลิงล่าสุด ที่เน้นย้ำ

ความถี่ในการตรวจเช็คถังดับเพลิง

  • ตรวจเช็ครายเดือน (โดยเจ้าของ/ผู้ดูแล) เป็นการตรวจเช็คด้วยสายตา (Visual Inspection) ดูว่าถังอยู่ที่เดิม, ไม่ถูกกีดขวาง, สภาพไม่บุบสลาย, สลักนิรภัยอยู่ครบ, และเกจวัดความดัน (Pressure Gauge) อยู่ในช่องสีเขียว
  • ตรวจเช็คราย 6 เดือน (โดยผู้เชี่ยวชาญ) ต้องได้รับการตรวจสอบโดยละเอียดจากบริษัทหรือบุคคลที่ได้รับอนุญาต เพื่อประเมินสภาพโดยรวม, ชั่งน้ำหนัก, และติดป้ายรับรองการตรวจสอบ

อายุการใช้งาน และการ Re-fill น้ำยา

  • การ Re-fill (เติมน้ำยา) ต้องเติมน้ำยาทันที “หลังจากการใช้งาน” ทุกครั้ง แม้จะฉีดไปเพียงเล็กน้อยก็ตาม และต้องเติมใหม่เมื่อถึงรอบการบำรุงใหญ่ (ปกติทุก 3-5 ปี แล้วแต่ชนิด)
  • อายุการใช้งาน (Hydrostatic Test) ตัวถังดับเพลิงต้องได้รับการทดสอบแรงดันน้ำ (Hydrostatic Test) ทุก 5 ปี เพื่อให้มั่นใจว่าถังไม่รั่วซึมและทนแรงดันได้ โดยทั่วไปถังดับเพลิงมีอายุการใช้งานประมาณ 10-15 ปี หากบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง

บทลงโทษ หากไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร

การไม่ปฏิบัติตามกฎหมายการติดตั้งถังดับเพลิง สำหรับสถานประกอบการและอาคารควบคุม มีบทลงโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร หรือ พ.ร.บ. ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน

บทลงโทษ อาจมีตั้งแต่การตักเตือน, การสั่งให้แก้ไข, การสั่งปิดปรับปรุงชั่วคราว, ไปจนถึง “โทษปรับ” และในกรณีที่เกิดเหตุอัคคีภัยและตรวจพบว่าเกิดจากความบกพร่องของระบบความปลอดภัย อาจรวมถึง “โทษจำคุก” สำหรับผู้รับผิดชอบอาคารหรือนายจ้าง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกฎหมายการติดตั้งถังดับเพลิง

บ้านพักอาศัยทั่วไป จำเป็นต้องติดตั้งถังดับเพลิงตามกฎหมายหรือไม่

สำหรับบ้านพักอาศัยส่วนบุคคลทั่วไป (เช่น บ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม) กฎหมายควบคุมอาคาร “ไม่ได้บังคับ” ให้ต้องติดตั้งถังดับเพลิง อย่างไรก็ตาม การติดตั้งไว้ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย โดยแนะนำให้มีถังประเภท ABC ติดบ้านไว้ อย่างน้อย 1 ถังในจุดที่เข้าถึงง่าย

ต้องติดตั้งถังดับเพลิงสูงจากพื้นเท่าไหร่

ตามมาตรฐาน วสท. และข้อกำหนดทั่วไป กฎหมายการติดตั้งถังดับเพลิง ระบุว่า จุดติดตั้งต้องให้มือจับด้านบนสุดของถังดับเพลิง สูงจากระดับพื้นไม่เกิน 1.50 เมตร (150 ซม.) และฐานของถังต้องยกสูงจากพื้นอย่างน้อย 10 ซม. เพื่อป้องกันความชื้นและให้หยิบใช้งานได้สะดวก

ถังดับเพลิงมีอายุกี่ปี และต้องตรวจเช็คบ่อยแค่ไหน

อายุการใช้งานของถังดับเพลิง (ตัวถัง) อยู่ที่ประมาณ 10-15 ปี แต่ต้องผ่านการทดสอบแรงดันน้ำ (Hydrostatic Test) ทุก 5 ปี ส่วนการตรวจเช็ค ต้องมีการตรวจด้วยสายตา (ดูเกจความดัน) “ทุกเดือน” และต้องได้รับการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ “ทุก 6 เดือน” เพื่อให้มั่นใจว่าแรงดันและสารเคมีอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน

สำนักงานขนาดเล็ก ต้องมีถังดับเพลิงกี่ถัง

สำนักงาน (Office) ถือเป็นสถานประกอบการ ต้องปฏิบัติตาม กฎหมายการติดตั้งถังดับเพลิง จำนวนถังไม่ได้ขึ้นอยู่กับ “ขนาด” (เล็กหรือใหญ่) เท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับ “ระดับความเสี่ยง” และ “ขนาดพื้นที่ (ตร.ม.)” เพื่อคำนวณ “ความสามารถในการดับเพลิง” (A และ B) ที่ต้องการ เช่น สำนักงานทั่วไป (เสี่ยงภัยน้อย) ต้องมีระยะเข้าถึงถังไม่เกิน 22.9 เมตร

สรุปกฎหมายการติดตั้งถังดับเพลิงล่าสุด

สรุปบทความ

การปฏิบัติตามกฎหมายการติดตั้งถังดับเพลิงอย่างเคร่งครัด ไม่เพียงแต่ช่วยให้ธุรกิจของคุณถูกต้องตามข้อบังคับและหลีกเลี่ยงบทลงโทษ แต่ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดเพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของทุกคนในอาคาร

อย่างไรก็ตาม ถังดับเพลิงเป็นเพียงส่วนหนึ่งของ “ระบบป้องกันอัคคีภัย” เท่านั้น ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกิดควันไฟหรือไฟฟ้าดับ สิ่งที่จะนำทางให้ผู้คนอพยพได้อย่างปลอดภัยคือ “ระบบไฟฉุกเฉิน” และ “ป้ายทางออกฉุกเฉิน” ที่สว่างชัดเจน ซึ่ง SUNNY คือผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ความปลอดภัยเหล่านี้ เราพร้อมให้บริการทั้งโคมไฟฉุกเฉินประสิทธิภาพสูง และป้ายทางออกฉุกเฉินตามมาตรฐาน วสท.

โดยเฉพาะป้ายทางหนีไฟ รุ่น SUNNY SL Series 6 ที่ออกแบบมาเพื่อความชัดเจนและทนทานในทุกสภาวะฉุกเฉิน มาพร้อมฟังก์ชั่นที่หลากหลาย

  • ระบบประหยัดพลังงาน ECO โหมด ประหยัดพลังงานขณะ Standby ประมาณ 50%
  • ระบบ Auto Test ทดสอบ อัตโนมัติทุก 1 เดือน 60 วินาที, ทุก 1 ปี 120 นาที พร้อมเปิด-ปิด ฟังก์ชันด้วยรีโมท
  • การควบคุมการทดสอบระยะไกลด้วย (Remote Test)
  • ระบบการชาร์จ นวัตกรรมใหม่ (3 Steps Charger System)
  • ระบบหยุดการทำงานแบตเตอรี่อัตโนมัติ (Low Voltage cut-off)
  • แจ้งเตือนทุกครั้งเมื่อระบบได้ทำการทดสอบแบตเตอรี่อัตโนมัติ
  • แจ้งเตือนการชาร์จแบตเตอรี่เกิดปัญหา (Charging Fail) LED กระพริบ 4 ครั้ง ทุกๆ 15 วินาที

สนใจสั่งซื้อสินค้าออนไลน์จาก SUNNY ได้ที่

หรือเลือกซื้อสินค้าผ่านร้านโมเดิร์นเทรดอย่าง ไทวัสดุ โฮมโปร เมกะโฮม Bean & Beyond หรือ ตัวแทนจำหน่ายไฟฉุกเฉิน SUNNY ใกล้บ้านคุณ และหากคุณมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับโคมไฟฉุกเฉิน และอุปกรณ์อื่น ๆ สามารถติดต่อเราได้ที่ 02-378-1034