“อัคคีภัย” เป็นหนึ่งในภัยที่ต้องเฝ้าระวัง และเตรียมพร้อมรับมืออยู่เสมอ เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ขึ้นแล้ว ถ้าไม่มีมาตรการรับมือที่ดี ก็อาจสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินและชีวิตได้ เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับเหตุการณ์ไฟไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ Sunny Emergency Light ได้รวมเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับอพยพหนีไฟมาให้แล้ว จะต้องซ้อมปีละกี่ครั้ง? เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ควรทำอย่างไร? ขั้นตอนการอพยพหนีไฟมีอะไรบ้าง? อ่านได้เลยที่บทความนี้
ทำไมเราต้องให้ความสำคัญกับการซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟ?
การเกิดเหตุไฟไหม้ถือเป็นปัญหาร้ายแรงของโรงงานอุตสาหกรรม และสำนักงานอาคารต่าง ๆ เนื่องจากตึกเหล่านี้มักมีเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้า หรืออุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ ที่ง่ายต่อการเกิดไฟไหม้ และลุกลามอย่างรวดเร็ว การซ้อมอพยพหนีไฟจึงเป็นสิ่งที่พนักงาน หรือผู้ใช้อาคารทุกคนไม่ควรเลยละเลย เพื่อที่จะได้รู้ว่า เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ต้องรับมืออย่างไร และหลบหนีไปในทิศทางใดให้รอดปลอดภัย และลดความสูญเสียให้ได้มากที่สุดนั่นเอง
ควรซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟปีละกี่ครั้ง?
ตามกฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหารจัดการและดำเนินการ ด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย พ.ศ. 2555 ระบุไว้ว่า นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างทุกคนฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟพร้อมกันอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง แต่เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ควรจัดการอบรมดับเพลิงและซ้อมอพยพหนีไฟทุก 6 เดือน เพื่อให้พนักงานมีความคุ้นเคยกับขั้นตอนการอพยพ และเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของระบบและอุปกรณ์ดับเพลิงอย่างสม่ำเสมอ
ข้อกำหนดของการอบรมดับเพลิงขั้นต้นตามกฎหมาย
ตามกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย พ.ศ. 2555 มีข้อกำหนดให้นายจ้างจัดให้มีการอบรมดับเพลิงขั้นต้นตามกฎหมายแก่ลูกจ้างตามเงื่อนไขดังนี้
- สถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ต้องจัดให้มีการอบรมดับเพลิงขั้นต้น
- ต้องจัดให้มีผู้ที่ได้รับการอบรมดับเพลิงขั้นต้นตามกฎหมายอย่างน้อย 40% ของจำนวนลูกจ้างในแต่ละหน่วยงาน
- สำหรับอาคารชุดหรือคอนโดมิเนียม ต้องจัดให้มีการซ้อมอพยพหนีไฟตามกฎหมายควบคุมอาคาร โดยต้องจัดอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และต้องมีคนผ่านการอบรมดับเพลิงขั้นต้นอย่างน้อย 1 คนต่อพื้นที่อาคาร 1,000 ตารางเมตร
- เนื้อหาการอบรมต้องประกอบด้วยทฤษฎีไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง และภาคปฏิบัติไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง
- หลักสูตรการอบรมต้องครอบคลุมเรื่องดังนี้
- ทฤษฎีการเกิดเพลิงไหม้และการแพร่กระจายของไฟ
- การป้องกันและระงับอัคคีภัยเบื้องต้น
- การใช้อุปกรณ์ดับเพลิงประเภทต่างๆ
- แผนป้องกันและระงับอัคคีภัย
- การอพยพหนีไฟ
ขั้นตอนการซ้อมอพยพหนีไฟให้มีประสิทธิภาพ
การซ้อมอพยพหนีไฟให้มีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องมีการวางแผนและเตรียมการอย่างเป็นระบบ โดยต้องกำหนดขั้นตอนและผู้รับผิดชอบในแต่ละส่วนให้ชัดเจน เพื่อให้การซ้อมเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
- จัดตั้งทีมผู้รับผิดชอบและกำหนดบทบาทหน้าที่
- จัดทำแผนอพยพหนีไฟและแผนผังเส้นทางหนีไฟ
- ติดตั้งและตรวจสอบอุปกรณ์ดับเพลิงให้พร้อมใช้งาน
- อบรมให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการดับเพลิงและการอพยพ
- กำหนดจุดรวมพลและเส้นทางอพยพที่ชัดเจน
- ซักซ้อมขั้นตอนการแจ้งเหตุและการประสานงาน
- ทำการประเมินผลและปรับปรุงแผนการซ้อมอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ ควรทำอย่างไร?
เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้น สิ่งแรกที่ทุกคนจะต้องทำก็คือการตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนก และประเมินสถานการณ์เบื้องต้นให้ดี หลังจากนั้นให้พิจารณาว่าควรทำอย่างไรถึงจะเหมาะสมที่สุด
- กรณีที่เพลิงไหม้เล็กน้อย : ให้ใช้อุปกรณ์ดับเพลิงที่มีอยู่ในบริเวณใกล้เคียง เช่น ถังดับเพลิง หรือสายฉีดน้ำดับเพลิง ทำการดับไฟทันที พร้อมแจ้งผู้รับผิดชอบหรือหัวหน้างานให้ทราบ หากไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ภายใน 3 นาที ให้เริ่มแผนอพยพทันที
- กรณีที่เพลิงไหม้รุนแรง : ให้ตะโกนบอก หรือกดสัญญาณเตือนแจ้งให้ผู้อื่นทราบ รีบอพยพหนีไฟออกจากอาคาร และโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาควบคุมเพลิง 199 ถ้าไม่ร้อน ให้เปิดประตูออกช้า ๆ แล้วอพยพไปตามเส้นทางหนีไฟ แต่ถ้ามีความร้อนสูง ห้ามเปิดประตูออกไป (เพราะอยู่ในวงล้อมของเพลิงไหม้) ให้ใช้ผ้าหนา ๆ ชุบน้ำอุดตามช่องที่ควันไฟลอยเข้ามาได้ ปิดพัดลมระบายอากาศและเครื่องปรับอากาศ แล้วโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบถึงตำแหน่ง เพื่อที่จะได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
9 ขั้นตอนการอพยพหนีไฟในอาคาร
เพื่อให้คุณสามารถอพยพหนีไฟในอาคารได้อย่างเหมาะสม Sunny Emergency Light ได้สรุป 9 ขั้นตอนการอพยพหนีไฟในอาคารสูงฉบับเข้าใจง่ายมาให้แล้ว ตามไปดูกันเลย
- ระงับสติอารมณ์ และทำการอพยพหนีไฟตามขั้นตอนที่เคยได้ซ้อมไว้
- เชื่อฟังคำแนะนำของอาสาสมัคร และพนักงาน รปภ. ที่เกี่ยวข้องกับแผนการอพยพ
- ขณะที่ลุกออกจากโต๊ะ หรือออกจากห้องทำงาน ให้เก็บทรัพย์สินมีค่า และเอกสารสำคัญต่าง ๆ ลงลิ้นชัก และล็อคกุญแจโดยเร็ว
- หลังจากนั้นให้ออกจากห้อง และมุ่งสู่บันไดหนีไฟด้วยการเดินเร็ว ห้ามวิ่ง ห้ามเดินย้อนกลับมา และไม่ต้องขนสัมภาระใด ๆ ติดตัวไปในขณะที่ทำการอพยพ
- ในระหว่างที่อพยพไปประตูหนีไฟ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำปิดจมูก หรือใช้ถุงพลาสติกใส่ขนาดใหญ่ อัดอากาศบริสุทธิ์เข้าไป แล้วนำมาครอบศีรษะ จากนั้นให้หมอบคลานต่ำ หรือย่อตัวใกล้กับระดับพื้นมากที่สุด เนื่องจากอากาศบริสุทธิ์จะอยู่เหนือระดับพื้นไม่เกิน 1 ฟุต
- การเดินภายในช่องบันไดหนีไฟ ให้เดินเรียงแถวขั้นบันไดละ 2 คน เพื่อป้องกันการเบียดเสียด และการสะดุดหกล้มขึ้น และในระหว่างที่เดินภายในช่องบันไดหนีไฟ ห้ามเดินคุยกัน ห้ามเดินล้วงกระเป๋า ห้ามส่งเสียงดัง และมองขั้นบันไดให้ดี
- ผู้ที่ออกจากชั้นเป็นคนสุดท้าย (ไม่ต้องยืนรอจนแน่ใจ) ให้ปิดประตูหนีไฟเพื่อป้องกันไม่ให้ควันจากชั้นต่าง ๆ เข้ามาในช่องบันไดหนีไฟ
- เมื่ออพยพจนถึงชั้นล่างสุดแล้ว ให้ออกจากอาคารไปรวมตัวในจุดรวมพลทันที
- หากเกิดเหตุไฟลุกลามติดเสื้อผ้า ให้รีบถอดเสื้อผ้าออก แล้วนอนราบกับพื้น และกลิ้งตัวเพื่อดับไฟ
สิ่งที่ไม่ควรทำในขณะที่อพยพหนีไฟ
สิ่งที่ไม่ควรทำในขณะที่อพยพหนีไฟ มีดังนี้
- ไม่หนีเข้าไปอยู่บริเวณจุดอับอาคาร เช่น ห้องใต้ดิน เพราะยากต่อการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่
- ไม่หนีเข้าไปอยู่ในห้องน้ำ เพราะปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อการดับไฟ
- ไม่หนีขึ้นไปชั้นบน หรือดาดฟ้าของอาคาร เพราะไฟจะลุกลามจากชั้นล่างขึ้นอยู่ชั้นบน ยกเว้นจะไม่สามารถอพยพหนีไฟไปชั้นล่างได้
- ไม่ใช้ลิฟต์ในการอพยพหนีไฟโดยเด็ดขาด เพราะเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ไฟฟ้าจะดับ ทำให้ติดค้างภายในลิฟต์ และขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิตได้
เสริมระบบความปลอดภัยในอาคารด้วยโคมไฟฉุกเฉินจาก SUNNY
จะเห็นได้ว่า การติดตั้งโคมไฟฟ้าฉุกเฉินที่ได้มาตรฐาน สามารถให้แสงสว่างฉุกเฉินเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ได้ตามปกติ และติดตั้งป้ายไฟทางออกฉุกเฉินที่มีสัญลักษณ์คมชัด สังเกตเห็นได้ง่าย เพื่อนำทางให้ผู้ใช้อาคารไปยังบันไดหนีไฟ หรือทางออกฉุกเฉินโดยเร็วที่สุด เป็นส่วนหนึ่งในระบบความปลอดภัยในอาคารที่มีความสำคัญอย่างมาก และเจ้าของอาคารไม่ควรละเลย ถ้าหากคุณไม่รู้จะใช้โคมไฟฉุกเฉินยี่ห้อไหนดี เราขอแนะนำโคมไฟฉุกเฉิน รุ่น SG ของ SUNNY ที่มาพร้อมกับระบบ Auto Check สามารถตรวจสอบการทำงานของตัวเครื่องได้อย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น แบตเตอรี่, หลอดไฟ, ฟิวส์, วงจรแสงสว่าง และระบบการชาร์จแบตเตอรี่ ช่วยให้คุณมั่นใจได้เลยว่า เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้จนทำให้ไฟฟ้าดับ จะมีแสงสว่างฉุกเฉินให้เห็นทัศนียภาพชัดเจนอย่างแน่นอน!
สรุปเรื่องการอพยพหนีไฟและการซ้อมดับเพลิง
จะเห็นได้ว่า การซ้อมอพยพหนีไฟเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย เพราะจะช่วยให้เรารู้ว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันนี้ขึ้น สิ่งไหนควรทำ สิ่งไหนที่ไม่ควรทำ ต้องหลบหนีไปยังเส้นทางใดเพื่อที่จะได้อพยพออกมาจากอาคารอย่างปลอดภัย ถ้าหากคุณต้องไปทำงานในสถานที่ใหม่ ๆ ก็อย่าลืมที่จะศึกษาเส้นทางหนีไฟและซ้อมอพยพหนีไฟกับอาคารนั้น ๆ เพราะไม่มีใครรู้เลยว่าจะเกิดเหตุเพลิงไหม้ตอนไหน การเตรียมพร้อมรับมือตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดนั่นเอง