Skip to content

อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ (Smoke Detector) คืออะไร? สำคัญอย่างไร

อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ (Smoke Detector)

อัคคีภัยถือเป็นภัยร้ายแรงที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ โดยเฉพาะในที่อยู่อาศัยและอาคารสำนักงาน ซึ่งมักก่อให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างมหาศาล ในปัจจุบัน Smoke Detector หรืออุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ เข้ามามีบทบาทสำคัญในการป้องกันและลดความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้ Sunny Emergency Light จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับอุปกรณ์ที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับบ้านและอาคารของคุณ

อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ (Smoke Detector) คืออะไร

อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ (Smoke Detector) คือ อุปกรณ์ความปลอดภัยที่ออกแบบมาเพื่อตรวจจับควันที่เกิดจากการเผาไหม้ในระยะเริ่มต้น ก่อนที่จะลุกลามกลายเป็นเพลิงไหม้ขนาดใหญ่ โดยจะส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจพบควัน เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยหรือผู้ใช้อาคารรับทราบและอพยพออกจากพื้นที่ได้ทันท่วงที รวมถึงสามารถแจ้งเหตุไปยังระบบป้องกันอัคคีภัยในอาคารหรือหน่วยงานดับเพลิงได้

หลักการทำงานของอุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ (Smoke Detector)

อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ (Smoke Detector) ทำงานด้วยหลักการพื้นฐานในการตรวจจับอนุภาคควันที่ลอยในอากาศ เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ โดยมีขั้นตอนการทำงานดังนี้

  1. การตรวจจับควัน – เซนเซอร์ภายในอุปกรณ์จะคอยตรวจสอบความผิดปกติของอากาศโดยรอบตลอดเวลา เมื่อมีอนุภาคควันลอยเข้ามาในโซนตรวจจับ เซนเซอร์จะทำงานตามหลักการของแต่ละประเภท
  2. การประมวลผล – เมื่อระบบตรวจพบอนุภาคควันในปริมาณที่เกินค่าที่กำหนดไว้ วงจรอิเล็กทรอนิกส์จะประมวลผลข้อมูลและยืนยันว่าเป็นควันไฟจริง เพื่อป้องกันการแจ้งเตือนที่ผิดพลาด
  3. การส่งสัญญาณเตือน – หลังจากยืนยันการตรวจพบควัน อุปกรณ์จะส่งสัญญาณเตือนในรูปแบบเสียงไซเรนดังที่ระดับเสียงประมาณ 85-95 เดซิเบล พร้อมไฟกะพริบเพื่อเตือนภัย
  4. การเชื่อมต่อกับระบบ – ในอาคารขนาดใหญ่ อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ จะส่งสัญญาณไปยังระบบแจ้งเตือนอัคคีภัยกลาง เพื่อให้มีการอพยพและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติ

ส่วนประกอบสำคัญของอุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ (Smoke Detector)

  • เซนเซอร์ตรวจจับ – เป็นหัวใจสำคัญในการตรวจจับอนุภาคควัน มีหลายประเภทตามหลักการทำงาน เช่น แบบไอออนไนซ์หรือแบบโฟโตอิเล็กทริก ทำหน้าที่ตรวจวัดการเปลี่ยนแปลงเมื่อมีควันเข้ามาในโซนตรวจจับ
  • วงจรประมวลผล – ทำหน้าที่รับและวิเคราะห์สัญญาณจากเซนเซอร์ ตัดสินใจว่าควรส่งสัญญาณเตือนหรือไม่ โดยมีอัลกอริทึมพิเศษเพื่อแยกแยะระหว่างควันไฟจริงกับละอองอื่นๆ
  • แหล่งพลังงาน – มักใช้แบตเตอรี่ขนาด 9V หรือแบตเตอรี่ลิเธียมอายุการใช้งานยาวนาน บางรุ่นเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าของอาคารโดยมีแบตเตอรี่สำรองเมื่อไฟดับ
  • เสียงเตือนภัย – ลำโพงหรือไซเรนที่สร้างเสียงดังเพื่อเตือนผู้อยู่อาศัย มักมีความดังมาตรฐานที่ 85 เดซิเบลขึ้นไป เพื่อให้ได้ยินแม้ในขณะหลับ
  • ไฟแสดงสถานะ – LED แสดงการทำงานปกติ แบตเตอรี่อ่อน หรือสถานะการเตือนภัย ช่วยให้ทราบสถานะของอุปกรณ์ได้อย่างรวดเร็ว

การเชื่อมต่อและการทำงานร่วมกับระบบแจ้งเตือนอัคคีภัย

อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ (Smoke Detector) สามารถทำงานได้ทั้งแบบอิสระหรือเชื่อมต่อกับระบบแจ้งเตือนอัคคีภัยของอาคาร การเชื่อมต่อทำได้หลายรูปแบบ ทั้งแบบใช้สาย (Wired) ที่เชื่อมต่อกับระบบกลางโดยตรง หรือแบบไร้สาย (Wireless) ที่สื่อสารผ่านสัญญาณวิทยุหรือ Wi-Fi

ในอาคารขนาดใหญ่ อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ หลายตัวจะทำงานร่วมกันเป็นเครือข่าย เมื่อตัวใดตัวหนึ่งตรวจพบควัน จะส่งสัญญาณไปยังระบบควบคุมกลางที่จะสั่งการให้อุปกรณ์เตือนภัยทั้งหมดทำงานพร้อมกัน นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ เช่น ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ ระบบควบคุมการเข้าออก หรือระบบ Building Automation เพื่อจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ Smoke Detector คืออะไร

ประเภทของอุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ (Smoke Detector)

อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ (Smoke Detector) แบ่งออกเป็นหลายประเภทตามหลักการทำงานและเทคโนโลยีที่ใช้ในการตรวจจับควัน แต่ละประเภทมีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกัน การเลือกใช้งานควรพิจารณาตามความเหมาะสมของพื้นที่และลักษณะการใช้งานของอาคาร

อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟแบบไอออนไนซ์ (Ionization Smoke Detector)

อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟแบบไอออนไนซ์ ทำงานโดยใช้สารกัมมันตรังสีปริมาณเล็กน้อย (อะเมริเซียม-241) สร้างประจุไฟฟ้าระหว่างแผ่นโลหะสองแผ่น เมื่อมีควันเข้ามาจะรบกวนการไหลของกระแสไฟฟ้า ทำให้เกิดการเตือนภัย ประเภทนี้ตอบสนองได้ดีกับไฟที่เกิดเปลวและควันที่มองไม่เห็น

อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟแบบโฟโตอิเล็กทริก (Photoelectric Smoke Detector)

อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟแบบโฟโตอิเล็กทริก ใช้หลักการทางแสง โดยมีแหล่งกำเนิดแสง (LED) และเซนเซอร์รับแสงภายในห้องมืด เมื่อมีควันเข้ามา จะทำให้แสงกระเจิงและตกกระทบเซนเซอร์ ทำให้เกิดการเตือนภัย เหมาะกับการตรวจจับควันหนาที่เกิดจากไฟที่คุกรุ่นช้าๆ

อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟแบบผสม (Dual Sensor Smoke Detector)

อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟแบบผสม รวมเทคโนโลยีของทั้งแบบไอออนไนซ์และโฟโตอิเล็กทริกไว้ในอุปกรณ์เดียวกัน ทำให้สามารถตรวจจับได้ทั้งไฟที่ลุกไหม้รวดเร็วและไฟที่คุกรุ่นช้าๆ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับและลดข้อจำกัดของแต่ละประเภท

ทำไมต้องติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ?

  • เพิ่มโอกาสรอดชีวิต – สถิติแสดงให้เห็นว่าการติดตั้ง อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ สามารถลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ในที่อยู่อาศัยได้ถึง 50% เนื่องจากสามารถตรวจจับควันไฟได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ทำให้ผู้อยู่อาศัยมีเวลาเพียงพอในการอพยพหนีไฟ
  • ตรวจจับไฟได้ตลอด 24 ชั่วโมง – อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ ทำงานตลอดเวลา แม้ในยามที่คุณหลับหรือไม่อยู่บ้าน ทำให้มั่นใจได้ว่าจะมีการตรวจจับและแจ้งเตือนเหตุเพลิงไหม้ได้ทันท่วงที โดยเฉพาะในเวลากลางคืนซึ่งเป็นช่วงที่มีอัตราการเสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้สูงสุด
  • ลดความเสียหายต่อทรัพย์สิน – การตรวจจับเพลิงไหม้ในระยะเริ่มต้นช่วยให้สามารถระงับเหตุได้ก่อนที่ไฟจะลุกลาม ทำให้ความเสียหายต่อทรัพย์สินมีน้อยลง ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือสร้างใหม่
  • ปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐาน – หลายประเทศรวมถึงประเทศไทย มีข้อกำหนดทางกฎหมายที่บังคับให้อาคารสาธารณะ อาคารพาณิชย์ และที่อยู่อาศัยบางประเภทต้องติดตั้ง อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ ตามมาตรฐานความปลอดภัย การไม่ปฏิบัติตามอาจมีความผิดทางกฎหมายและส่งผลต่อการเคลมประกัน
  • คุ้มค่าต่อการลงทุน – อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ มีราคาไม่สูงมากเมื่อเทียบกับประโยชน์ด้านความปลอดภัยที่ได้รับ อุปกรณ์พื้นฐานมีราคาเริ่มต้นเพียงไม่กี่ร้อยบาท แต่สามารถปกป้องชีวิตและทรัพย์สินที่มีมูลค่ามหาศาล

วิธีการเลือกซื้ออุปกรณ์ตรวจจับควันไฟให้เหมาะสม

การเลือกอุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ (Smoke Detector) ที่เหมาะสมกับความต้องการและลักษณะการใช้งานของอาคารเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันอัคคีภัย

  • ประเภทของอุปกรณ์ – พิจารณาว่าควรใช้แบบไอออนไนซ์หรือโฟโตอิเล็กทริกตามลักษณะพื้นที่และความเสี่ยง สำหรับบ้านพักอาศัยแนะนำให้ใช้แบบผสม (Dual Sensor) เพื่อครอบคลุมการตรวจจับทั้งไฟที่ลุกไหม้เร็วและไฟคุกรุ่น ส่วนห้องครัวควรใช้แบบโฟโตอิเล็กทริกที่ไม่ไวต่อไอระเหยมากเกินไป
  • มาตรฐานรับรอง – เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากสถาบันที่น่าเชื่อถือ เช่น UL (Underwriters Laboratories), EN54, BS (British Standard) หรือ มอก. (มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมไทย) ซึ่งรับประกันว่าผลิตภัณฑ์ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยตามข้อกำหนด
  • ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ – เลือกแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและประวัติที่ดีในตลาด มีการรับประกันสินค้า และมีบริการหลังการขายที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีการสนับสนุนหากเกิดปัญหา
  • ฟังก์ชันเพิ่มเติม – พิจารณาฟีเจอร์พิเศษที่ตอบโจทย์การใช้งาน เช่น การเชื่อมต่อ Wi-Fi, การแจ้งเตือนผ่านมือถือ, แบตเตอรี่อายุการใช้งานยาวนาน หรือฟังก์ชันการตรวจจับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในอุปกรณ์เดียวกัน เหล่านี้อาจมีประโยชน์เพิ่มเติมแม้จะมีราคาสูงขึ้น แต่คุ้มค่าในระยะยาว

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ (Smoke Detector)

ตำแหน่งที่เหมาะสมในการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ

การติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ (Smoke Detector) ในตำแหน่งที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประสิทธิภาพในการตรวจจับควัน โดยทั่วไปควรติดตั้งบนเพดานเนื่องจากควันมักลอยขึ้นสู่ด้านบน หรือหากจำเป็นต้องติดที่ผนัง ควรติดตั้งห่างจากเพดานไม่เกิน 30 ซม. ควรมีอย่างน้อยหนึ่งเครื่องในทุกชั้นของบ้าน โดยเฉพาะบริเวณทางเดิน ใกล้ห้องนอน และบริเวณที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ห้องครัว (แต่ไม่ใกล้เกินไปจนเกิดสัญญาณเตือนผิดพลาด) หลีกเลี่ยงการติดตั้งใกล้ช่องแอร์หรือพัดลมที่อาจทำให้ควันกระจายและลดประสิทธิภาพการตรวจจับ

อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟถ้าไม่เอาตัวครอบออกเป็นอะไรไหม

การไม่เอาตัวครอบ (Housing) ของ Smoke Detector หรืออุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ ออกเมื่อติดตั้งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานอย่างมาก เนื่องจากตัวครอบถูกออกแบบให้มีช่องที่เหมาะสมสำหรับการไหลเวียนของอากาศและควัน การไม่ถอดตัวครอบหรือฟิล์มป้องกันออกจะทำให้อนุภาคควันเข้าถึงเซนเซอร์ได้ช้า หรือในบางกรณีอาจไม่สามารถเข้าถึงได้เลย ทำให้อุปกรณ์ไม่สามารถตรวจจับควันและส่งสัญญาณเตือนได้ทันท่วงที

อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟจำเป็นต้องติดในบ้านไหม

Smoke Detector หรืออุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ หรืออพาร์ตเมนต์ เนื่องจากเพลิงไหม้สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาโดยไม่คาดคิด โดยเฉพาะในยามที่ทุกคนกำลังหลับ สถิติพบว่าบ้านที่ไม่มีการติดตั้ง อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ มีความเสี่ยงต่อการสูญเสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้สูงกว่าบ้านที่มีการติดตั้งถึง 2 เท่า การลงทุนติดตั้งจึงถือเป็นการประกันความปลอดภัยที่คุ้มค่าที่สุด

สรุปเกี่ยวกับอุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ (Smoke Detector)

สรุปเกี่ยวกับอุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ (Smoke Detector)

Smoke Detector หรือ อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟเป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินจากอัคคีภัย ด้วยความสามารถในการตรวจจับควันไฟตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ช่วยให้มีเวลาเพียงพอในการอพยพและแจ้งเหตุก่อนที่เพลิงไหม้จะลุกลามใหญ่โต นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับระบบป้องกันอัคคีภัยในที่พักอาศัยและอาคารทุกประเภท

สำหรับ SUNNY ผู้เชี่ยวชาญด้านไฟฉุกเฉิน พวกเราคือรายแรกที่คิดค้นไฟฉุกเฉินที่มีฟังก์ชันตรวจจับแก๊สและควันไฟ (EMERGENCY LIGHT WITH GAS AND SMOKE DETECTOR) เลขที่อนุสิทธิบัตรเลขที่ 15954 ซึ่งได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่รวมประโยชน์ของไฟฉุกเฉินและอุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ ไว้ด้วยกัน ทำให้สามารถตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินได้อย่างครบวงจร มั่นใจได้ในคุณภาพและประสิทธิภาพที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล ให้คุณและครอบครัวอุ่นใจได้ว่าจะมีระบบป้องกันภัยที่พร้อมทำงานตลอด 24 ชั่วโมง

สนใจสั่งซื้อสินค้าออนไลน์จาก SUNNY ได้ที่

  • ร้านค้า ShopeeMall บน Shopee 
  • ร้านค้า LazMall บน LAZADA

หรือเลือกซื้อสินค้าผ่านร้านโมเดิร์นเทรดอย่าง ไทวัสดุ โฮมโปร เมกะโฮม Bean & Beyond หรือ ตัวแทนจำหน่ายไฟฉุกเฉิน SUNNY ใกล้บ้านคุณ สามารถปรึกษาหรือเลือกซื้อสินค้าของ Sunny Emergency Light ได้ที่เว็บไซต์ของเรา หรือติดต่อเราได้ที่ 02-378-1034