Skip to content

ไฟกระชากคืออะไร? เปิดสาเหตุและวิธีป้องกันเครื่องใช้ไฟฟ้าพัง

ไฟกระชากคืออะไร

เคยไหมที่เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านหยุดทำงานหรือพังเสียหายโดยไม่ทราบสาเหตุ? หนึ่งในต้นตอของปัญหากวนใจนี้อาจมาจากไฟกระชาก ภัยเงียบที่สร้างความเสียหายได้มากกว่าที่คิด วันนี้ Sunny Emergency Light ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไฟฟ้า ได้รวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับไฟกระชากตั้งแต่สาเหตุ ผลกระทบ ไปจนถึงวิธีป้องกันที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณรับมือได้อย่างถูกวิธีและปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้าของคุณให้ปลอดภัย

ไฟกระชากคืออะไร

ไฟกระชาก (Power Surge) คือสภาวะที่แรงดันไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะเวลาสั้นๆ (ระดับไมโครวินาทีหรือมิลลิวินาที) เกินกว่าระดับแรงดันไฟฟ้าปกติที่ 220V ของระบบไฟฟ้าในบ้าน เปรียบเสมือนคลื่นพลังงานไฟฟ้าแรงสูงที่วิ่งเข้ามาในสายไฟ ซึ่งสามารถสร้างความเสียหายรุนแรงให้กับแผงวงจรและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ละเอียดอ่อนของเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ทันที ทำให้เป็นหนึ่งในสาเหตุของไฟกระชากที่ต้องระวัง

ไฟกระชาก แตกต่างจาก ไฟตก ไฟเกิน อย่างไร?

หลายคนอาจสับสนระหว่างไฟตก ไฟเกิน ไฟกระชาก ซึ่งเป็นปัญหาแรงดันไฟฟ้าผิดปกติเหมือนกัน แต่มีความแตกต่างที่สำคัญคือ “ระยะเวลา” และ “ระดับแรงดัน” โดยไฟกระชากเป็นการเพิ่มขึ้นของแรงดันไฟฟ้าอย่างฉับพลันในเวลาสั้นมากๆ ในขณะที่ไฟตกคือแรงดันต่ำกว่าปกติ และไฟเกินคือแรงดันสูงกว่าปกติอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่า

  • ไฟกระชาก (Surge) แรงดันไฟฟ้าสูงขึ้นฉับพลัน ในช่วงเวลาสั้นมากๆ
  • ไฟตก (Sag/Brownout) แรงดันไฟฟ้าต่ำกว่าระดับปกติอย่างต่อเนื่อง
  • ไฟเกิน (Overvoltage) แรงดันไฟฟ้าสูงกว่าระดับปกติอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน

ไฟกระชาก เกิดจากอะไรได้บ้าง?

สาเหตุของไฟกระชาก นั้นมีหลากหลายปัจจัย ทั้งจากปัจจัยภายนอกและภายในอาคาร ซึ่งเป็นสิ่งที่เราควรทำความเข้าใจเพื่อหาทางป้องกันไฟกระชากได้อย่างตรงจุด โดยสาเหตุหลักๆ มีดังนี้

  • ปรากฏการณ์ฟ้าผ่า เป็นสาเหตุที่รุนแรงที่สุด แม้ฟ้าผ่าจะไม่ได้ผ่าลงที่บ้านโดยตรง แต่ก็สามารถเหนี่ยวนำให้เกิดแรงดันไฟฟ้าสูงในสายส่งและวิ่งเข้าสู่ระบบไฟฟ้าในบ้านได้
  • การเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ อุปกรณ์ที่ใช้กำลังไฟสูง เช่น เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น ปั๊มน้ำ เมื่อเริ่มทำงานหรือหยุดทำงาน จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของแรงดันไฟฟ้าในระบบและเกิดไฟกระชากขนาดเล็กได้
  • ปัญหาจากระบบสายส่งของการไฟฟ้า อาจเกิดจากการสับสวิตช์ในระบบส่งกำลังไฟฟ้า หรือเกิดอุบัติเหตุกับเสาไฟฟ้า ทำให้เกิดแรงดันไฟฟ้าที่ไม่เสถียรและส่งผลมาถึงผู้ใช้งาน
  • การเดินสายไฟที่ผิดพลาดหรือชำรุด ระบบสายดินที่ไม่ได้มาตรฐานหรือสายไฟที่เก่าเกินไป ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาไฟกระชากได้ง่ายขึ้น
ผลกระทบและความเสียหายจากไฟกระชาก

ผลกระทบและความเสียหายจากไฟกระชาก

อย่ามองข้ามความเสียหายจากไฟกระชากโดยเด็ดขาด เพราะแม้จะเป็นเพียงคลื่นพลังงานไฟฟ้าสั้นๆ แต่ก็มีอำนาจทำลายล้างสูง ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าและอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้

ความเสียหายต่อแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

ผลกระทบที่พบบ่อยที่สุดคือความเสียหายต่อแผงวงจรและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ภายในเครื่องใช้ไฟฟ้าสมัยใหม่ เช่น ทีวี คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องเสียง แรงดันไฟฟ้าที่สูงเกินจะเข้าไปทำลายชิ้นส่วนที่ละเอียดอ่อน ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานผิดปกติหรือเสียหายถาวรจนไม่สามารถซ่อมแซมได้

H3 อายุการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สั้นลง

ไฟกระชากที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง แม้จะไม่รุนแรงจนทำให้เครื่องพังในทันที แต่จะค่อยๆ สร้างความเสียหายสะสม (Cumulative Damage) ให้กับอุปกรณ์ภายใน ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงและมีอายุการใช้งานสั้นกว่าที่ควรจะเป็น ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่เกิดจากไฟกระชากโดยตรง

ความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย

ในกรณีที่เกิดไฟกระชากอย่างรุนแรง เช่น จากฟ้าผ่า พลังงานไฟฟ้ามหาศาลที่วิ่งเข้ามาอาจทำให้เกิดความร้อนสูงจนสายไฟหรือชิ้นส่วนพลาสติกภายในเครื่องใช้ไฟฟ้าหลอมละลายและเกิดประกายไฟ ซึ่งเป็นความเสี่ยงโดยตรงที่อาจนำไปสู่เหตุอัคคีภัยร้ายแรงได้ การมีระบบป้องกันไฟกระชากจึงสำคัญมาก

วิธีรับมือและป้องกันไฟกระชากอย่างได้ผล

การลงทุนเพื่อป้องกันไฟกระชากถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพื่อยืดอายุการใช้งานและรักษาความปลอดภัยให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้ามูลค่าสูงของคุณ โดยมีหลายวิธีที่สามารถทำได้ดังนี้

1. ถอดปลั๊กเมื่อไม่ใช้งาน

เป็นวิธีพื้นฐานที่สุดแต่ได้ผล 100% การถอดปลั๊กเป็นการตัดการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องใช้ไฟฟ้ากับระบบไฟฟ้าโดยสมบูรณ์ ทำให้ปลอดภัยจากไฟกระชากทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง หรือเมื่อต้องไม่อยู่บ้านเป็นเวลานาน ควรถอดปลั๊กอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นออกเสมอ

2. เลือกใช้อุปกรณ์กันไฟกระชาก (Surge Protector)

สำหรับหลายคนอาจสงสัยว่า Surge protector คืออะไร สิ่งนี้คืออุปกรณ์กันไฟกระชาก ที่ออกแบบมาเพื่อรับมือกับปัญหานี้โดยเฉพาะ ทำหน้าที่ตรวจจับและเปลี่ยนเส้นทางของแรงดันไฟฟ้าส่วนเกินให้ไหลลงสู่สายดินแทนที่จะวิ่งเข้าสู่เครื่องใช้ไฟฟ้า การเลือกใช้ปลั๊กไฟกันกระชากที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานจึงเป็นสิ่งจำเป็น

3. ใช้เครื่องสำรองไฟ

เครื่องสำรองไฟ หรือ UPS (Uninterruptible Power Supply) เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ป้องกันไฟกระชากที่มีประสิทธิภาพสูง นอกจากจะช่วยกันไฟกระชากได้แล้ว ยังสามารถสำรองไฟฟ้าไว้ใช้ชั่วคราวในกรณีที่เกิดไฟดับ ทำให้คุณมีเวลาบันทึกงานและปิดคอมพิวเตอร์ได้อย่างปลอดภัย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับอุปกรณ์ที่ต้องการความเสถียรของไฟฟ้าสูง เช่น คอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์

4. ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟกระชากที่ตู้ไฟหลัก

เพื่อการป้องกันที่ครอบคลุมทั้งบ้าน การติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟกระชากสำหรับบ้านทั้งหลัง (Whole-House Surge Protector) ที่ตู้ควบคุมไฟฟ้าหลัก (Consumer Unit) เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด อุปกรณ์นี้จะทำหน้าที่เป็นด่านแรกในการป้องกันไฟกระชากรุนแรงที่มาจากภายนอก ไม่ให้เล็ดลอดเข้ามาสร้างความเสียหายให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชิ้นในบ้านของคุณ

สรุปเกี่ยวกับไฟกระชาก

สรุปบทความ

ไฟกระชาก เป็นภัยเงียบที่สามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงและลดทอนอายุการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ การเข้าใจถึงสาเหตุของไฟกระชากและรู้จักวิธีป้องกันไฟกระชากที่ถูกต้อง เช่น การใช้ปลั๊กกันไฟกระชาก หรือติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟกระชากที่ตู้ไฟหลัก จะช่วยให้คุณใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างสบายใจและปลอดภัยสูงสุด เช่นเดียวกับที่ SUNNY ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย เราจึงคิดค้นโคมไฟฉุกเฉิน รุ่น SG Series ที่มีระบบ Auto Check แจ้งเตือนเมื่อฟิวส์ขาด เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าอุปกรณ์พร้อมใช้งานในยามฉุกเฉินเสมอ

สนใจสั่งซื้อสินค้าออนไลน์จาก SUNNY ได้ที่

หรือเลือกซื้อสินค้าผ่านร้านโมเดิร์นเทรดอย่าง ไทวัสดุ โฮมโปร เมกะโฮม Bean & Beyond หรือ ตัวแทนจำหน่ายไฟฉุกเฉิน SUNNY ใกล้บ้านคุณ และหากคุณมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับโคมไฟฉุกเฉิน และอุปกรณ์อื่น ๆ สามารถติดต่อเราได้ที่ 02-378-1034

บทความใกล้เคียง

มาตรฐานการติดตั้งและขนาดสัญลักษณ์ของป้ายไฟทางออกฉุกเฉิน

ป้ายไฟทางออกฉุกเฉิน: ข้อกำหนดที่สำคัญสำหรับความปลอดภัย ป้ายไฟทางออกฉุกเฉินเป็นองค์ประกอบสำคัญในระบบความปลอดภัยของอาคาร ซึ่งช่วยให้ผู้อาศัยสามารถอพยพออกจากพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น

Read More »

ความส่องสว่างเพื่อการหนีไฟ

มาตรฐานเรื่องค่าของแสง พื้นที่แต่ละพื้นที่ในอาคารจะต้องมีค่าความสว่างเท่าไหร่ตามข้อกำหนด ในกรณีที่ระบบจ่ายไฟฟ้าปกติล้มเหลว ระบบไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉินต้องให้มีระดับความส่องสว่างขั้นต่ำ เพื่อให้หาทางออกได้อย่างปลอดภัยดังนี้

Read More »