Skip to content

Articles

ขั้นตอนอพยพหนีไฟในอาคาร ควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร

รวมเรื่องต้องรู้เกี่ยวกับการอพยพหนีไฟในอาคาร

“อัคคีภัย” เป็นหนึ่งในภัยที่ต้องเฝ้าระวัง และเตรียมพร้อมรับมืออยู่เสมอ เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ขึ้นแล้ว ถ้าไม่มีมาตรการรับมือที่ดี ก็อาจสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินและชีวิตได้ เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับเหตุการณ์ไฟไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ Sunny Emergency Light ได้รวมเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับอพยพหนีไฟมาให้แล้ว จะต้องซ้อมปีละกี่ครั้ง? เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ควรทำอย่างไร? ขั้นตอนการอพยพหนีไฟมีอะไรบ้าง? อ่านได้เลยที่บทความนี้ ทำไมเราต้องให้ความสำคัญกับการซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟ? การเกิดเหตุไฟไหม้ถือเป็นปัญหาร้ายแรงของโรงงานอุตสาหกรรม และสำนักงานอาคารต่าง ๆ เนื่องจากตึกเหล่านี้มักมีเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้า หรืออุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ ที่ง่ายต่อการเกิดไฟไหม้ และลุกลามอย่างรวดเร็ว การซ้อมอพยพหนีไฟจึงเป็นสิ่งที่พนักงาน หรือผู้ใช้อาคารทุกคนไม่ควรเลยละเลย เพื่อที่จะได้รู้ว่า เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ต้องรับมืออย่างไร และหลบหนีไปในทิศทางใดให้รอดปลอดภัย และลดความสูญเสียให้ได้มากที่สุดนั่นเอง ควรซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟปีละกี่ครั้ง? ตามกฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหารจัดการและดำเนินการ ด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย พ.ศ. 2555 ระบุไว้ว่า นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างทุกคนฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟพร้อมกันอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง แต่เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ควรจัดการอบรมดับเพลิงและซ้อมอพยพหนีไฟทุก 6 เดือน เพื่อให้พนักงานมีความคุ้นเคยกับขั้นตอนการอพยพ และเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของระบบและอุปกรณ์ดับเพลิงอย่างสม่ำเสมอ ข้อกำหนดของการอบรมดับเพลิงขั้นต้นตามกฎหมาย ตามกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย พ.ศ. 2555 มีข้อกำหนดให้นายจ้างจัดให้มีการอบรมดับเพลิงขั้นต้นตามกฎหมายแก่ลูกจ้างตามเงื่อนไขดังนี้ ขั้นตอนการซ้อมอพยพหนีไฟให้มีประสิทธิภาพ การซ้อมอพยพหนีไฟให้มีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องมีการวางแผนและเตรียมการอย่างเป็นระบบ โดยต้องกำหนดขั้นตอนและผู้รับผิดชอบในแต่ละส่วนให้ชัดเจน เพื่อให้การซ้อมเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ ควรทำอย่างไร? เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้น สิ่งแรกที่ทุกคนจะต้องทำก็คือการตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนก และประเมินสถานการณ์เบื้องต้นให้ดี หลังจากนั้นให้พิจารณาว่าควรทำอย่างไรถึงจะเหมาะสมที่สุด 9 ขั้นตอนการอพยพหนีไฟในอาคาร เพื่อให้คุณสามารถอพยพหนีไฟในอาคารได้อย่างเหมาะสม Sunny Emergency Light ได้สรุป 9 ขั้นตอนการอพยพหนีไฟในอาคารสูงฉบับเข้าใจง่ายมาให้แล้ว ตามไปดูกันเลย สิ่งที่ไม่ควรทำในขณะที่อพยพหนีไฟ สิ่งที่ไม่ควรทำในขณะที่อพยพหนีไฟ มีดังนี้ เสริมระบบความปลอดภัยในอาคารด้วยโคมไฟฉุกเฉินจาก SUNNY จะเห็นได้ว่า การติดตั้งโคมไฟฟ้าฉุกเฉินที่ได้มาตรฐาน สามารถให้แสงสว่างฉุกเฉินเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ได้ตามปกติ และติดตั้งป้ายไฟทางออกฉุกเฉินที่มีสัญลักษณ์คมชัด สังเกตเห็นได้ง่าย เพื่อนำทางให้ผู้ใช้อาคารไปยังบันไดหนีไฟ หรือทางออกฉุกเฉินโดยเร็วที่สุด เป็นส่วนหนึ่งในระบบความปลอดภัยในอาคารที่มีความสำคัญอย่างมาก และเจ้าของอาคารไม่ควรละเลย ถ้าหากคุณไม่รู้จะใช้โคมไฟฉุกเฉินยี่ห้อไหนดี เราขอแนะนำโคมไฟฉุกเฉิน รุ่น SG ของ SUNNY ที่มาพร้อมกับระบบ

Read More »
สรุปข้อกำหนดระบบความปลอดภัยในอาคารสูง แบบฉบับเข้าใจง่าย

สรุปข้อกำหนดระบบความปลอดภัยในอาคารสูง แบบฉบับเข้าใจง่าย

อาคารต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น คอนโด หอพัก หรือสถานประกอบการอย่างอาคารสำนักงาน โรงแรม โรงงานอุตสาหกรรม โรงเรียน หรือห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ล้วนเป็นสถานที่ที่มีผู้คนจำนวนมากอาศัยอยู่ การวางระบบรักษาความปลอดภัยในอาคารที่ได้มาตรฐาน เพื่อเตรียมรับมือกับภัยต่าง ๆ เช่น การโจรกรรม ภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรืออัคคีภัย จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น จะได้รับมืออย่างทันท่วงที ช่วยลดความสูญเสียต่าง ๆ ทั้งต่อทรัพย์สินและชีวิตได้ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่า อาคารที่ใช้งานอยู่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน Sunny Emergency Light จะพาไปทำความรู้จักกับระบบความปลอดภัยในอาคาร จะต้องมีข้อกำหนดหรือกฎเกณฑ์อะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย! ทำไมต้องมีระบบความปลอดภัยในอาคาร? การวางระบบความปลอดภัยในอาคารที่ได้มาตรฐาน เป็นหนึ่งในสิ่งที่ทุกอาคารต้องมี เนื่องจากเป็นข้อกำหนดทางกฎหมายในการสร้างตึกหลังหนึ่ง เพื่อที่เวลาเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่าง ๆ เช่น ไฟไหม้ หรือโจรกรรม จะได้พาผู้คนในอาคารอพยพออกมาจากอาคารได้อย่างปลอดภัย รวมถึงสามารถป้องกันเหตุ แจ้งเหตุ และระงับเหตุไม่ให้เกิดขึ้น หรือรุนแรงมากขึ้นได้นั่นเอง ระบบความปลอดภัยในอาคาร มีอะไรบ้าง? ตัวอย่างระบบความปลอดภัยในอาคาร เช่น อาคาร หรือตึกแบบไหนที่ต้องมีระบบความปลอดภัยในอาคาร อาคาร หรือตึกทุกประเภทจะต้องมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยในอาคารที่ได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็น การระบายอากาศภายในอาคาร การติดตั้งโคมไฟฟ้าฉุกเฉิน สัญญาณเตือนเพลิงไหม้ ทำบันไดหนีไฟ หรือระบบไฟฟ้าสำรองภายในอาคาร เป็นต้น เนื่องจากเป็นข้อกำหนดทางกฎหมายเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้อาคาร อย่างไรก็ตาม อาคารแต่ละประเภท จะมีข้อกำหนดระบบความปลอดภัยในอาคารที่แตกต่างกัน เพื่อการวางระบบรักษาความปลอดภัยในอาคารที่ได้มาตรฐาน จึงควรปรึกษาผู้ตรวจสอบอาคารก่อนทำการสร้างตึกให้ดี ซึ่งจะช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาตามมาในภายหลังได้มาก 13 ข้อกำหนดระบบความปลอดภัยในอาคารสูง เพื่อให้คุณเห็นภาพระบบความปลอดภัยในอาคารมากขึ้น เรามีตัวอย่าง 13 ข้อกำหนดระบบความปลอดภัยในอาคารสูงมาฝาก อ้างอิงมาจากกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในอาคารสูง ได้แก่ กฎกระทรวงฉบับที่ 33 (พ.ศ.2535) ฉบับที่ 47 (พ.ศ.2540) ฉบับที่ 48 (พ.ศ.2540) และฉบับที่ 50 (พ.ศ.2540) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 แต่ละหัวข้อจะมีความน่าสนใจอย่างไร ไปดูกันเลย! 1. ที่ตั้งของอาคาร ที่ตั้งของอาคารสูงที่มีพื้นที่รวมกันไม่เกิน 30,000 ตารางเมตร โดยด้านหนึ่งของที่ดินจะต้องไม่น้อยกว่า 12

Read More »
ไฟฉุกเฉินคืออะไรมีกี่แบบทำงานอย่างไร

รวมทุกเรื่องต้องรู้เกี่ยวกับไฟฉุกเฉิน (Emergency Light) คืออะไร? มีกี่แบบ?

อาคารทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นอาคารเล็กหรือใหญ่ นอกจากอุปกรณ์ป้องกันและระงับอัคคีภัยแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องมีก็คือ “ไฟฉุกเฉิน (Emergency Light)” ที่จะติดตั้งอยู่ตามบริเวณทางเดิน หรือทางออกฉุกเฉิน ซึ่งผู้ประกอบการหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดูแลอาคาร อาจยังไม่เคยรู้ความหมายของ ไฟฉุกเฉินว่าคืออะไร สำคัญต่อระบบรักษาความปลอดภัยอย่างไร วันนี้ Sunny Emergency Light ได้รวบรวมสาระสำคัญของระบบไฟฟ้าฉุกเฉิน แบบครบจบในบทความเดียว ไปค้นหาคำตอบพร้อม ๆ กันเลย ไฟฉุกเฉินคืออะไร? ไฟฉุกเฉิน (Emergency Light) คือ เครื่องมือให้แสงสว่างในกรณีที่ไฟฟ้าดับ โดยเครื่องจะส่องสว่างอัตโนมัติ เมื่อเกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้อง หรือจับสัญญาณได้ว่า บริเวณดังกล่าวมีค่าความสว่างต่ำกว่าที่ตั้งค่าไว้ (ขึ้นอยู่กับฟังก์ชันการใช้งานของแต่ละรุ่น) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้อยู่ในอาคารสามารถมองเห็นทัศนียภาพได้อย่างชัดเจน นำทางไปยังป้ายทางออกฉุกเฉิน และอพยพออกจากอาคารได้อย่างปลอดภัย ไฟฉุกเฉินควรติดตั้งบริเวณใดบ้าง ตัวอย่างบริเวณที่ต้องมีโคมไฟฉุกเฉินตามมาตรฐานการติดตั้งไฟฉุกเฉิน ดังนี้ ทั้งนี้ในแต่อาคารจะต้องมีการติดตั้งระบบไฟฟ้าฉุกเฉินตาม ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 4745 (พ.ศ. 2558) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 เรื่อง กำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม การติดตั้งระบบการให้แสงสว่างฉุกเฉิน ตามมาตรฐานเลขที่ มอก. 2690-2558 โดยเป็นการติดตั้งเพื่ออำนวยความสะดวกแก่การอพยพบุคคลออกจากพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว ไฟฉุกเฉินทำงานอย่างไร? โคมไฟฉุกเฉิน จะมีแบตเตอรี่เป็นแหล่งเก็บพลังงานไฟฟ้าสำรอง โดยแบ่งเป็น 2 แบบหลัก ๆ ได้แก่ แบตเตอรี่แบบแห้ง และแบตเตอรี่แบบชนิดเติมน้ำกลั่น ซึ่งปัจจุบันไม่มีการนำแบตเตอรี่ประเภทนี้มาใช้กับไฟฉุกเฉินแล้ว  โดยเมื่อเกิดเหตุไฟฟ้าดับ โคมไฟฉุกเฉินจะใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ในการส่องสว่าง ซึ่งระยะเวลาการส่องสว่างจะแตกต่างกันไปตามรุ่นของโคมไฟฉุกเฉินและขนาดแบตเตอรี่ที่ใช้ แต่โดยส่วนใหญ่จะต้องส่องสว่างอยู่ได้นาน 2 ชั่วโมงขึ้นไป ไฟฉุกเฉินมีกี่แบบ แต่ละแบบมีจุดเด่นอย่างไร? ในปัจจุบัน มีโคมไฟฉุกเฉินจัดจำหน่ายหลายแบบ แต่ละแบบจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ดังนี้ 1. ไฟฉุกเฉิน LED 2 หัวโคม แบบแขวนผนัง เป็นโคมไฟฉุกเฉินที่ได้รับความนิยม และใช้งานกันทั่วไป เพราะให้แสงสว่างได้สูง แต่ใช้พลังงานไฟฟ้ากำลังวัตต์ต่ำมาก มีอายุการใช้งานยาวนาน สามารถให้แสงสว่างอย่างต่อเนื่องนาน 2 – 3 ชั่วโมง โดยจะนำมาติดตั้งแบบแขวนผนังตามจุดสำคัญต่าง ๆ ของอาคาร สำหรับใครที่ไม่รู้จะซื้อโคมไฟฉุกเฉิน LED 2

Read More »
เลือกไฟฉุกเฉินยี่ห้อไหนดี?

ตอบข้อสงสัยเลือกไฟฉุกเฉินยี่ห้อไหนดี? พร้อมแนะนำโคมไฟฉุกเฉิน 5 รุ่นสุดฮิต จาก SUNNY

“โคมไฟฉุกเฉิน” หรือ “Emergency Light” เป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยให้ระบบรักษาความปลอดภัยของอาคาร หรือที่พักอาศัยมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะจะช่วยให้ความสว่างเมื่อเกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้อง หรือเกิดเพลิงไหม้ แ“โคมไฟฉุกเฉิน” หรือ “Emergency Light” เป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยให้ระบบรักษาความปลอดภัยของอาคาร หรือที่พักอาศัยมีประสิทธิ/ภาพมากขึ้น เพราะจะช่วยให้ความสว่างเมื่อเกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้อง หรือเกิดเพลิงไหม้ และนำทางไปยังทางออกฉุกเฉิน ทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถหลบหนีได้อย่างปลอดภัย แล้วควรเลือกโคมไฟฉุกเฉินยี่ห้อไหนดี Sunny Emergency Light มีคำแนะนำมาฝาก แนะนำ 5 โคมไฟฉุกเฉิน ยี่ห้อ SUNNY ที่ตอบโจทย์ทุกสถานการณ์ หากคุณไม่รู้จะซื้อโคมไฟฉุกเฉินยี่ห้อไหนดี SUNNY ขอแนะนำ 5 รุ่นโคมไฟฉุกเฉินยอดนิยม ตอบโจทย์ทุกสถานการณ์ แต่ละรุ่นจะมีความน่าสนใจอย่างไร ไปดูกันเลย! 1. โคมไฟฉุกเฉิน รุ่น MESG โคมไฟฉุกเฉิน SUNNY รุ่น MESG มาพร้อมกับระบบ Auto Check คอยตรวจสอบสมรรถนะตัวเครื่อง และแจ้งเตือนความผิดปกติโดยอัตโนมัติในทุกจุดสำคัญของตัวเครื่อง เช่น แบตเตอรี่ หลอดไฟ ฟิวส์ วงจรแสงสว่าง และระบบการชาร์จแบตเตอรี่ แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานยาวนานด้วยระบบการชาร์จนวัตกรรมใหม่อย่าง 3 Steps Charger System (เลขอนุสิทธิบัตร 15955) ที่เหนือกว่าระบบชาร์จอื่นช่วยปกป้องกระบวนการชาร์จแบตเตอรี่อย่างสมบูรณ์ 2. โคมไฟฉุกเฉิน รุ่น SGM โคมไฟฉุกเฉิน รุ่น SGM ที่ทำหน้าที่มากกว่าโคมไฟฉุกเฉินทั่วไป มีจุดเด่นตรงฟังก์ชันเสริม “วงจรจับการเคลื่อนไหว (Motion Sensor)” ที่ช่วยให้ใช้งานหลอดไฟจากตัวเครื่องอย่างคุ้มค่า และนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายสถานการณ์ โดยในขณะที่ไฟฟ้าดับ ตัวเครื่องสำรองไฟจะให้แสงสว่างด้วยไฟจากแบตเตอรี่ และในขณะที่ไฟไม่ดับ หากมีคนเดินผ่านที่ตัวเครื่อง แล้วพื้นที่บริเวณนั้นมีค่าแสงสว่างต่ำกว่า 5 ลักซ์ วงจรจับการเคลื่อนไหวจะทำงาน ทำให้ไฟติดเองอัตโนมัติ และจะดับภายใน 15 วินาที ถ้าไม่มีคนอยู่ 3. โคมไฟฉุกเฉิน รุ่น SG โคมไฟฉุกเฉิน รุ่น SG มีระบบ Auto

Read More »
รวมเรื่องต้องรู้เกี่ยวกับมาตรฐานไฟฉุกเฉิน

รวมมาตรฐานการติดตั้งไฟฉุกเฉินที่ต้องรู้ พร้อมแนะนำจุดติดตั้งสำคัญที่ต้องรู้

เวลาที่เราเข้าไปในอาคาร หรือสถานที่ต่าง ๆ หนึ่งในสิ่งที่ต้องสังเกตให้ดีคือ “โคมไฟฉุกเฉิน” และ “ป้ายไฟทางออกฉุกเฉิน” เพื่อที่เวลาเกิดเหตุไม่คาดฝัน จะได้อพยพออกมาตามการนำทางของโคมไฟฉุกเฉิน มายังทางออกได้อย่างปลอดภัย แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า อาคารที่เข้าไปใช้งานมีการติดตั้งโคมไฟฉุกเฉินตามมาตรฐานไฟฉุกเฉิน บทความนี้มีคำตอบ ความสำคัญของมาตรฐานการติดตั้งไฟฉุกเฉิน การติดตั้งระบบโคมไฟฉุกเฉินและป้ายไฟทางออกฉุกเฉินให้ได้มาตรฐานตามที่ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) กำหนด เป็นสิ่งที่เจ้าของสถานที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะนอกจากจะเป็นข้อกำหนดทางกฎหมายแล้ว มาตรฐานการติดตั้งไฟฉุกเฉินและป้ายทางหนีไฟที่ออกแบบมา ยังเป็นกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำของความปลอดภัยเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันอย่างอัคคีภัย หรือไฟฟ้าขัดข้องด้วย ถ้าหากอาคาร หรือสถานที่นั้น ๆ ไม่ได้ติดตั้งโคมไฟฉุกเฉินและป้ายไฟทางออกฉุกเฉินที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็แสดงว่าไม่มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้อาคารนั่นเอง 13 จุดที่ต้องติดตั้งโคมไฟฉุกเฉินตามมาตรฐานไฟฉุกเฉิน บริเวณที่ต้องติดตั้งโคมไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉิน ตามมาตรฐานระบบไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉินและโคมไฟฟ้าป้ายทางออกฉุกเฉิน พ.ศ. 2565 (วสท. 021004-22) มี 13 บริเวณดังนี้ การติดตั้งโคมไฟฉุกเฉินให้ได้มาตรฐาน ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องใดบ้าง? นอกจาก 13 จุดที่ต้องติดตั้งโคมไฟฉุกเฉินแล้ว เพื่อให้เจ้าของสถานที่เห็นภาพการติดตั้งโคมไฟฉุกเฉินตามมาตรฐานไฟฉุกเฉินมากขึ้น เราได้รวม 3 เรื่องที่เจ้าของอาคารต้องให้ความสำคัญมาให้แล้ว จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย! 1. เป้าหมายในการติดตั้งโคมไฟฉุกเฉิน การติดตั้งโคมไฟฉุกเฉิน จะมีอยู่ 2 เป้าหมายหลัก ๆ ได้แก่ การให้แสงสว่างสำรองเวลาที่แหล่งจ่ายไฟปกติล้มเหลว และการให้แสงสว่างเพื่อการหนีภัย ซึ่งทั้งสองส่วนนี้จะต้องติดตั้งวงจรการให้แสงสำรองแยกกัน โดยการติดตั้งโคมไฟฉุกเฉินจะต้องเป็นไปตามที่มาตรฐานไฟฉุกเฉินกำหนดเท่านั้น  การติดตั้งโคมไฟฉุกเฉินเพื่อการหนีภัยนั้น จะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดต่าง ๆ ดังนี้ 2. เลือกโคมไฟฉุกเฉินให้เหมาะกับแต่ละจุด โคมไฟฟ้าที่ใช้เพื่อส่องสว่างฉุกเฉินจะมีอยู่ 3 แบบหลัก ๆ ดังนี้ ไม่ว่าจะเลือกโคมไฟฉุกเฉินแบบใด โคมไฟฉุกเฉินนั้น ๆ จะต้องมีสเปคขั้นต่ำ คือ มีหลอดไฟ LED ที่มีความสว่างเพียงพอ แบตเตอรี่ต้องสามารถให้แสงสว่างได้อย่างน้อย 120 นาที และทำงานอัตโนมัติเมื่อเกิดเหตุไฟดับ 3. เลือกป้ายไฟทางออกฉุกเฉินให้ได้ขนาดมาตรฐาน ป้ายไฟทางออกฉุกเฉินก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน และจะต้องเลือกขนาดที่ได้มาตรฐานตามที่หน่วยงานกำหนดด้วย โดยข้อกำหนดขนาดป้ายบอกทางหนีไฟตามกฎหมาย จะแตกต่างกันไปตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ อย่างไรก็ตาม ขนาดป้ายบอกทางหนีไฟตามกฎหมายดังกล่าว เป็นข้อมูลขนาดป้ายทางออกฉุกเฉินเล็กสุดเท่านั้น หากป้ายมีขนาดใหญ่ จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน แนะนำให้สอบถามเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญก่อนสั่งซื้อ เพื่อความถูกต้องที่สุด

Read More »

วงจร 3 steps charge

คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไม แบตเตอรี่ที่ใช้กับโทรศัพท์มือถือซึ่งถูกใช้งานอยู่ทุกวันจึงมีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้ได้นานกว่าแบตเตอรี่ที่นำมาใช้งานในเครื่องไฟฉุกเฉิน – บางคนอาจจะตอบว่าเป็นเพราะแบตเตอรี่ต่างชนิดกัน แล้วมันเป็นเช่นนั้นจริงเหรอจริงครับแต่ไม่ใช่เหตุผลหลักหรือเหตุผลสำคัญ – แล้วเหตุผลที่สำคัญที่แท้จริงนั้นมันคืออะไรสาเหตุสำคัญที่จริงแล้วคือ ลักษณะของการนำเอาแบตเตอรี่มาใช้งานต่างหากที่เป็นปัจจัยหลักคือโทรศัพท์มือถือเป็นการใช้แบตเตอรี่แบบ Circle Useเครื่องไฟฉุกเฉินเป็นการนำแบตเตอรี่มาใช้งานแบบ Standby Use Circle Use คืออะไรCircle Use คือการนำแบตเตอรี่มาทำการชาร์จไฟเมื่อแบตเตอรี่หมด และเมื่อชาร์จไฟแบตเตอรี่เต็มแล้วจึงนำออกไปใช้งาน Standby Use คืออะไรStandby Use คือการชาร์จแบตเตอรี่แบบมีไฟเลี้ยงแบตเตอรี่ไว้ตลอดเวลาเพื่อให้แบตเตอรี่เต็มอยู่เสมอ เพื่อจะรอใช้งานเมื่อเกิดเหตุไฟฟ้าดับ ไฟที่ไปเลี้ยงแบตเตอรี่ตลอดเวลานี้เป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่สั้นซึ่งถ้าเราสามารถนำเครื่องไฟฉุกเฉินมาใช้งานได้ทุกวันเหมือนโทรศัพท์มือถือ อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ไฟฉุกเฉินก็สามารถใช้งานได้ไม่ต่างกับแบตเตอรี่ของโทรศัพท์มือถือเท่าไหร่นัก แต่ในการใช้งานจริงๆมันไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ – แล้วจะทำอย่างไรจึงจะแก้ปัญหาปัญหานี้ได้?นวัตกรรมใหม่ในการออกแบบวงจรชาร์จแบตเตอรี่ที่มีการใช้งานแบบ Standby Use ให้มีการชาร์จแบตเตอรี่เป็นแบบ Circle Use ด้วยวงจรชาร์จที่เรียกว่า 3 Step Charger จะสามารถแก้ปัญหานี้ได้ – 3 Step Charge คืออะไร ทำงานยังไง3 Step Charger คือ วงจรชาร์จแบตเตอรีที่จะตัดวงจรชาร์จแบตเตอรี่ออกจากแบตเตอรี่เมื่อแบตเตอรี่ชาร์จเต็มเหมือนการชาร์จแบบ Circle Use ซึ่งก็จะไม่มีไฟไปเลี้ยงแบตเตอรี่อยู่ตลอดเวลาการทำงานของ 3 Step Charger คือStep 1. ถ้าประจุของแบตเตอรี่ต่ำมาก การชาร์จประจุเข้าแบตเตอรี่ โดยวิธีควบคุมกระแสชาร์จ(Limit Current) ไม่ให้เกิน Normal Charge คือไม่เกิน 10%ของความจุของตัวแบตเตอรี่Step 2. เมื่อประจุของแบตเตอรี่สูงขึ้น กระแสชาร์จก็จะลดลง วงจรชาร์จก็จะเปลี่ยนการชาร์จเป็นแบบ การชาร์จแบบแรงดันคงที่ (Constant Voltage Charge)Step 3. เมื่อทำการชาร์จด้วย แรงดันคงที่จนมาถึงจุด Float Charge (แบตเตอรี่เต็ม) แล้ววงจรชาร์จก็จะเปลี่ยนการชาร์จเป็นแบบ Flip Flop Charge คือจะทำการตัดวงจรชาร์จออกจากแบตเตอรี่ แล้วปล่อยให้แบตเตอรี่คายประจุไปด้วย Self Discharge จนประจุลดลงมาถึงระดับที่ตั้งใว้ (อิงจาก OCV ในคู่มือของแบตเตอรี่) ก็จะทำการต่อการชาร์จด้วยวงจร Constant Voltage Charge เข้าไปจนเต็มอีก

Read More »

ถ้าไฟฟ้าดับเครื่องไฟฉุกเฉินจำเป็นต้องติดเพื่อให้แสงสว่างไหม?

ถ้าไฟฟ้าดับเครื่องไฟฉุกเฉินจำเป็นต้องติดเพื่อให้แสงสว่างไหม? ถ้าบริเวณนั้นสว่าง ประโยชน์ของเครื่องไฟฉุกเฉินที่นำมาใช้งานก็คือ การให้แสงสว่างชดเชยแสงสว่างปกติเมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดับ เพื่อจะได้มองเห็นทางเดินและสิ่งกรีดขวางเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุในขณะที่ไฟฟ้าดับ จะเห็นได้ว่าประโยชน์ของเครื่องไฟฉุกเฉินคือให้แสงสว่างเมื่อเวลาไฟฟ้าดับและบริเวณนั้นมืด และมันจะไม่จำเป็นเลยถ้าไฟฟ้าดับแต่บริเวณนั้นยังสว่างอยู่ เช่นถ้าไฟฟ้าดับในเวลากลางวันซึ่งแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ยังส่องเข้ามาถึง สามารถสามารถมองเห็นทางเดิน และสิ่งกรีดขวางได้ ดังนั้นแสงสว่างจากเครื่องไฟฉุกเฉินก็ไม่มีความจำเป็นในขณะนั้น แต่บางครั้งไฟฟ้าอาจดับเป็นเวลานานจนไปถึงตอนใกล้มืด ซึ่งตอนนี้แหละเป็นช่วงเวลาที่ต้องการแสงสว่างจากเครื่องไฟฉุกเฉินแล้ว แต่เครื่องไฟฉุกเฉินถูกใช้ไฟไปจนหมดตั้งแต่ตอนกลางวันแล้ว พอตอนกลางคืนที่ต้องการจะใช้กลับใช้งานไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ทางเราจึงตระหนักดีถึงความสำคัญในการที่จะออกแบบเครื่องไฟฉุกเฉินให้ใช้งานได้ ตรงตามสภาวะ การใช้งานที่จำเป็นจริงๆ คือหลอดไฟจะติดเพื่อให้แสงสว่างขณะไฟฟ้าดับเฉพาะตอนที่บริเวณนั้นมีความมืดต่ำกว่า 5 LUX เท่านั้น เครื่องไฟฉุกเฉินชนิดนี้เราเรียกว่า EMERGENCY LIGHT DETECTOR

Read More »

มาตรฐานชนิดและขนาดของสายไฟฟ้าสำหรับโคมไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉินต่อพ่วง

มาตรฐานชนิดและขนาดของสายไฟฟ้าสำหรับโคมไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉินต่อพ่วง ใช้สำหรับเดินจากแหล่งจ่ายไฟฟ้าฉุกเฉินส่วนกลางไปยังโคมไฟแสงสว่างฉุกเฉิน ในอาคารใหญ่ อาคารใหญ่พิเศษ หรือ อาคารสูง ที่มีวงจรไฟฟ้าของโคมไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉินแยกต่างหาก ต้องใช้สายทนไฟ Fire Performance Cable (FRC)และติดตั้งตามมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้า สำหรับประเทศไทยฉบับล่าสุด โดยต้องมีการป้องกันความเสียหายทางกายภาพ เช่น ช่องเดินสายชนิดโลหะ ยกเว้นในส่วนปิดล้อมที่ทนไฟได้ไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมงหรือใช้ระบบการเดินสายอื่นที่ให้ผลการป้องกันเทียบเท่ากัน โดยสายไฟฟ้าต้องมีขนาดเพียงพอที่จะรับกระแสที่ไหลในวงจรได้ แต่ต้องมีขนาดไม่น้อยกว่า 2.5 ตารางมิลลิเมตรและแรงดันตกไม่เกินร้อยละ 5 อีกทั้งการเดินสายระบบสำหรับโคมไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉินต่อพ่วงต้องแยกจากการเดินสายวงจรอื่นโดยการติดตั้งท่อหรือช่องเดินสายแยกจากกันหรือแยกตัวนำจากตัวนำอื่น โดยมีที่กั้นต่อเนื่องที่ทำด้วยวัสดุที่ไม่ติดไฟช่องเดินสายหรือเครื่องหมายอื่นๆต้องมีเครื่องหมายกำกับที่ถาวร และเห็นได้ชัดเจน อ้างอิงจาก หนังสือ มาตรฐานระบบไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉิน และโคมไฟป้ายทางออกฉุกเฉินฉบับ แก้ไขปรับปรุงครั้งที่ 4 ตุลาคม 2561

Read More »

ความส่องสว่างเพื่อการหนีไฟ

มาตรฐานเรื่องค่าของแสง พื้นที่แต่ละพื้นที่ในอาคารจะต้องมีค่าความสว่างเท่าไหร่ตามข้อกำหนด ในกรณีที่ระบบจ่ายไฟฟ้าปกติล้มเหลว ระบบไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉินต้องให้มีระดับความส่องสว่างขั้นต่ำ เพื่อให้หาทางออกได้อย่างปลอดภัยดังนี้ พื้นที่โล่งภายในอาคารที่ไม่มีทางหนีภัยที่ชัดเจน กำหนดให้มีระดับความส่องสว่างในแนวระดับที่พื้นทั่วพื้นที่ๆไม่มีสิ่งกีดขีดขวางต้องไม่น้อยกว่า 0.5 ลักซ์ ยกเว้นพื้นที่ๆห่างจากผนังในระยะ 0.5เมตร โดยรอบ ดังรูป 2. ทางหนีภัยที่มีความกว้างไม่เกิน 2 เมตร กำหนดให้มีระดับความส่องสว่างในแนวระดับที่พื้นที่เส้นกึ่งกลางของทางหนีภัยไม่น้อยกว่า 1ลักซ์ และบนแถบกลางทางหนีภัยที่มีความกว้างไม่น้อยกว่าครึ่งนึงของทางหนีภัย ต้องมีความส่องสว่างไม่น้อยกว่าครึ่งนึงของความส่องสว่างต่ำสุดที่ออกแบบไว้บนเส้นกึ่งกลางทางหนีภัย ดังรูป 3. ทางหนีภัยที่มีความกว้างเกิน 2 เมตร กำหนดให้มีระดับค่าความส่องสว่างเป็นอย่างหนึ่งอย่างใด ดังรูป ให้แบ่งความกว้างทางหนีไฟเป็นแถบกว้างเท่าๆกัน แถบละไม่เกิน 2 เมตร และออกแบบถามข้อ 2 (ทางหนีภัยที่มีความกว้างไม่เกิน 2 เมตร) กำหนดให้มีระดับความส่องสว่างในแนวระดับที่พื้นทั่วพื้นที่ที่ไม่มีสิ่งกีดขวางตามข้อ 1 (พื้นที่โล่งภายในอาคารที่ไม่มีทางหนีภัยที่ชัดเจน) 4. พื้นที่งานที่มีความเสี่ยงสูง ความส่องสว่างที่พื้นที่ทำงานต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของค่าระดับความส่องสว่างในเวลาปกติ แต่ต้องไม่น้อยกว่า 15 ลักซ์ 5. พื้นที่เตรียมการหนีภัย จุดรวมพลเพื่อการหนีภัยภายในอาคาร พื้นที่ปฎิบัติงานของพนักงานดับเพลิงเจ้าหน้าที่พนักงานกู้ภัย รวมถึงห้องควบคุมการปฎิบัติงานความส่องสว่างในแนวระดับที่พื้น ต้องไม่น้อยกว่า 15 ลักซ์ 6. พื้นที่เก็บอุปกรณ์ดับเพลิง อุปกรณ์แจ้งเหตุ และพื้นที่เก็บอุปกรณ์ปฐมพยาบาล ความส่องสว่างในแนวระนาบดิ่งที่ตำแหน่งติดตั้งอุปกรณ์ต้องไม่น้อยกว่า 5ลักซ์ โดยตำแหน่งโคมไฟฟ้า แสงสว่างฉุกเฉินต้องติดตั้งในระยะห่างไม่เกิน 2เมตร จากจุดกึ่งกลางของตำแหน่งติดตั้งอุปกรณ์ ดังรูป อ้างอิงจาก หนังสือ มาตรฐานระบบไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉิน และโคมไฟป้ายทางออกฉุกเฉินฉบับ แก้ไขปรับปรุงครั้งที่ 4 ตุลาคม 2561

Read More »

มาตรฐานการติดตั้งและขนาดสัญลักษณ์ของป้ายไฟทางออกฉุกเฉิน

ป้ายไฟทางออกฉุกเฉิน: ข้อกำหนดที่สำคัญสำหรับความปลอดภัย ป้ายไฟทางออกฉุกเฉินเป็นองค์ประกอบสำคัญในระบบความปลอดภัยของอาคาร ซึ่งช่วยให้ผู้อาศัยสามารถอพยพออกจากพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น ไฟไหม้หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน การติดตั้งป้ายไฟทางออกฉุกเฉินต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าป้ายสามารถมองเห็นและเข้าใจได้ง่าย มาตรฐานที่สำคัญในการติดตั้งป้ายไฟทางออกฉุกเฉิน ได้แก่ ระยะทางระหว่างป้าย ขนาดของสัญลักษณ์ ความสูงในการติดตั้ง และระดับความสว่างของป้าย ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่ช่วยให้ป้ายสามารถทำหน้าที่เป็นแนวทางนำผู้คนไปสู่ทางออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ 1. ความสูงและตำแหน่งการติดตั้งป้ายไฟทางออกฉุกเฉิน 1.1 ตำแหน่งติดตั้งป้ายทางออกฉุกเฉิน 1.2 ระยะห่างระหว่างป้ายไฟทางออกฉุกเฉิน 2. ขนาดของป้ายไฟทางออกฉุกเฉินและสัญลักษณ์ 2.1 องค์ประกอบของป้ายไฟทางออกฉุกเฉิน 2.2 ขนาดของสัญลักษณ์ 3. จุดที่ต้องติดตั้งป้ายไฟทางออกฉุกเฉิน 4. มาตรฐานความสว่างของป้ายไฟทางออกฉุกเฉิน 5. ป้ายไฟทางออกฉุกเฉินแบบเรืองแสงและไฟฟ้า ป้ายไฟทางออกฉุกเฉินมีสองประเภทหลัก ได้แก่ ทั้งสองแบบมีข้อดีที่แตกต่างกัน แต่ป้ายไฟฟ้าทางออกฉุกเฉินเป็นที่นิยมมากกว่าในอาคารที่มีระบบไฟฟ้าฉุกเฉิน 6. การบำรุงรักษาป้ายไฟทางออกฉุกเฉิน สรุป ป้ายไฟทางออกฉุกเฉินถือเป็นมาตรการสำคัญในการเพิ่มความปลอดภัยของอาคาร โดยการออกแบบและติดตั้งต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ทั้งในเรื่องระยะห่าง, ขนาดสัญลักษณ์, ความสูงในการติดตั้ง และระดับความสว่าง เพื่อให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนและนำทางผู้ใช้อาคารได้อย่างปลอดภัยในสถานการณ์ฉุกเฉิน หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การออกแบบระบบไฟฟ้าฉุกเฉิน หรือ มาตรฐานความปลอดภัยในอาคาร สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้มาตรฐานระบบไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉินและโคมไฟฟ้าป้ายทางออกฉุกเฉิน พ.ศ. 2565 (วสท. 021004-22)

Read More »