Skip to content

Articles

ถ้าไฟฟ้าดับเครื่องไฟฉุกเฉินจำเป็นต้องติดเพื่อให้แสงสว่างไหม?

ถ้าไฟฟ้าดับเครื่องไฟฉุกเฉินจำเป็นต้องติดเพื่อให้แสงสว่างไหม? ถ้าบริเวณนั้นสว่าง ประโยชน์ของเครื่องไฟฉุกเฉินที่นำมาใช้งานก็คือ การให้แสงสว่างชดเชยแสงสว่างปกติเมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดับ เพื่อจะได้มองเห็นทางเดินและสิ่งกรีดขวางเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุในขณะที่ไฟฟ้าดับ จะเห็นได้ว่าประโยชน์ของเครื่องไฟฉุกเฉินคือให้แสงสว่างเมื่อเวลาไฟฟ้าดับและบริเวณนั้นมืด และมันจะไม่จำเป็นเลยถ้าไฟฟ้าดับแต่บริเวณนั้นยังสว่างอยู่ เช่นถ้าไฟฟ้าดับในเวลากลางวันซึ่งแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ยังส่องเข้ามาถึง สามารถสามารถมองเห็นทางเดิน และสิ่งกรีดขวางได้ ดังนั้นแสงสว่างจากเครื่องไฟฉุกเฉินก็ไม่มีความจำเป็นในขณะนั้น แต่บางครั้งไฟฟ้าอาจดับเป็นเวลานานจนไปถึงตอนใกล้มืด ซึ่งตอนนี้แหละเป็นช่วงเวลาที่ต้องการแสงสว่างจากเครื่องไฟฉุกเฉินแล้ว แต่เครื่องไฟฉุกเฉินถูกใช้ไฟไปจนหมดตั้งแต่ตอนกลางวันแล้ว พอตอนกลางคืนที่ต้องการจะใช้กลับใช้งานไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ทางเราจึงตระหนักดีถึงความสำคัญในการที่จะออกแบบเครื่องไฟฉุกเฉินให้ใช้งานได้ ตรงตามสภาวะ การใช้งานที่จำเป็นจริงๆ คือหลอดไฟจะติดเพื่อให้แสงสว่างขณะไฟฟ้าดับเฉพาะตอนที่บริเวณนั้นมีความมืดต่ำกว่า 5 LUX เท่านั้น เครื่องไฟฉุกเฉินชนิดนี้เราเรียกว่า EMERGENCY LIGHT DETECTOR

Read More »

มาตรฐานชนิดและขนาดของสายไฟฟ้าสำหรับโคมไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉินต่อพ่วง

มาตรฐานชนิดและขนาดของสายไฟฟ้าสำหรับโคมไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉินต่อพ่วง ใช้สำหรับเดินจากแหล่งจ่ายไฟฟ้าฉุกเฉินส่วนกลางไปยังโคมไฟแสงสว่างฉุกเฉิน ในอาคารใหญ่ อาคารใหญ่พิเศษ หรือ อาคารสูง ที่มีวงจรไฟฟ้าของโคมไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉินแยกต่างหาก ต้องใช้สายทนไฟ Fire Performance Cable (FRC)และติดตั้งตามมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้า สำหรับประเทศไทยฉบับล่าสุด โดยต้องมีการป้องกันความเสียหายทางกายภาพ เช่น ช่องเดินสายชนิดโลหะ ยกเว้นในส่วนปิดล้อมที่ทนไฟได้ไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมงหรือใช้ระบบการเดินสายอื่นที่ให้ผลการป้องกันเทียบเท่ากัน โดยสายไฟฟ้าต้องมีขนาดเพียงพอที่จะรับกระแสที่ไหลในวงจรได้ แต่ต้องมีขนาดไม่น้อยกว่า 2.5 ตารางมิลลิเมตรและแรงดันตกไม่เกินร้อยละ 5 อีกทั้งการเดินสายระบบสำหรับโคมไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉินต่อพ่วงต้องแยกจากการเดินสายวงจรอื่นโดยการติดตั้งท่อหรือช่องเดินสายแยกจากกันหรือแยกตัวนำจากตัวนำอื่น โดยมีที่กั้นต่อเนื่องที่ทำด้วยวัสดุที่ไม่ติดไฟช่องเดินสายหรือเครื่องหมายอื่นๆต้องมีเครื่องหมายกำกับที่ถาวร และเห็นได้ชัดเจน อ้างอิงจาก หนังสือ มาตรฐานระบบไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉิน และโคมไฟป้ายทางออกฉุกเฉินฉบับ แก้ไขปรับปรุงครั้งที่ 4 ตุลาคม 2561

Read More »

ความส่องสว่างเพื่อการหนีไฟ

มาตรฐานเรื่องค่าของแสง พื้นที่แต่ละพื้นที่ในอาคารจะต้องมีค่าความสว่างเท่าไหร่ตามข้อกำหนด ในกรณีที่ระบบจ่ายไฟฟ้าปกติล้มเหลว ระบบไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉินต้องให้มีระดับความส่องสว่างขั้นต่ำ เพื่อให้หาทางออกได้อย่างปลอดภัยดังนี้ พื้นที่โล่งภายในอาคารที่ไม่มีทางหนีภัยที่ชัดเจน กำหนดให้มีระดับความส่องสว่างในแนวระดับที่พื้นทั่วพื้นที่ๆไม่มีสิ่งกีดขีดขวางต้องไม่น้อยกว่า 0.5 ลักซ์ ยกเว้นพื้นที่ๆห่างจากผนังในระยะ 0.5เมตร โดยรอบ ดังรูป 2. ทางหนีภัยที่มีความกว้างไม่เกิน 2 เมตร กำหนดให้มีระดับความส่องสว่างในแนวระดับที่พื้นที่เส้นกึ่งกลางของทางหนีภัยไม่น้อยกว่า 1ลักซ์ และบนแถบกลางทางหนีภัยที่มีความกว้างไม่น้อยกว่าครึ่งนึงของทางหนีภัย ต้องมีความส่องสว่างไม่น้อยกว่าครึ่งนึงของความส่องสว่างต่ำสุดที่ออกแบบไว้บนเส้นกึ่งกลางทางหนีภัย ดังรูป 3. ทางหนีภัยที่มีความกว้างเกิน 2 เมตร กำหนดให้มีระดับค่าความส่องสว่างเป็นอย่างหนึ่งอย่างใด ดังรูป ให้แบ่งความกว้างทางหนีไฟเป็นแถบกว้างเท่าๆกัน แถบละไม่เกิน 2 เมตร และออกแบบถามข้อ 2 (ทางหนีภัยที่มีความกว้างไม่เกิน 2 เมตร) กำหนดให้มีระดับความส่องสว่างในแนวระดับที่พื้นทั่วพื้นที่ที่ไม่มีสิ่งกีดขวางตามข้อ 1 (พื้นที่โล่งภายในอาคารที่ไม่มีทางหนีภัยที่ชัดเจน) 4. พื้นที่งานที่มีความเสี่ยงสูง ความส่องสว่างที่พื้นที่ทำงานต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของค่าระดับความส่องสว่างในเวลาปกติ แต่ต้องไม่น้อยกว่า 15 ลักซ์ 5. พื้นที่เตรียมการหนีภัย จุดรวมพลเพื่อการหนีภัยภายในอาคาร พื้นที่ปฎิบัติงานของพนักงานดับเพลิงเจ้าหน้าที่พนักงานกู้ภัย รวมถึงห้องควบคุมการปฎิบัติงานความส่องสว่างในแนวระดับที่พื้น ต้องไม่น้อยกว่า 15 ลักซ์ 6. พื้นที่เก็บอุปกรณ์ดับเพลิง อุปกรณ์แจ้งเหตุ และพื้นที่เก็บอุปกรณ์ปฐมพยาบาล ความส่องสว่างในแนวระนาบดิ่งที่ตำแหน่งติดตั้งอุปกรณ์ต้องไม่น้อยกว่า 5ลักซ์ โดยตำแหน่งโคมไฟฟ้า แสงสว่างฉุกเฉินต้องติดตั้งในระยะห่างไม่เกิน 2เมตร จากจุดกึ่งกลางของตำแหน่งติดตั้งอุปกรณ์ ดังรูป อ้างอิงจาก หนังสือ มาตรฐานระบบไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉิน และโคมไฟป้ายทางออกฉุกเฉินฉบับ แก้ไขปรับปรุงครั้งที่ 4 ตุลาคม 2561

Read More »

มาตรฐานการติดตั้งและขนาดสัญลักษณ์ของป้ายไฟทางออกฉุกเฉิน

ป้ายไฟทางออกฉุกเฉิน: ข้อกำหนดที่สำคัญสำหรับความปลอดภัย ป้ายไฟทางออกฉุกเฉินเป็นองค์ประกอบสำคัญในระบบความปลอดภัยของอาคาร ซึ่งช่วยให้ผู้อาศัยสามารถอพยพออกจากพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น ไฟไหม้หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน การติดตั้งป้ายไฟทางออกฉุกเฉินต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าป้ายสามารถมองเห็นและเข้าใจได้ง่าย มาตรฐานที่สำคัญในการติดตั้งป้ายไฟทางออกฉุกเฉิน ได้แก่ ระยะทางระหว่างป้าย ขนาดของสัญลักษณ์ ความสูงในการติดตั้ง และระดับความสว่างของป้าย ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่ช่วยให้ป้ายสามารถทำหน้าที่เป็นแนวทางนำผู้คนไปสู่ทางออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ 1. ความสูงและตำแหน่งการติดตั้งป้ายไฟทางออกฉุกเฉิน 1.1 ตำแหน่งติดตั้งป้ายทางออกฉุกเฉิน 1.2 ระยะห่างระหว่างป้ายไฟทางออกฉุกเฉิน 2. ขนาดของป้ายไฟทางออกฉุกเฉินและสัญลักษณ์ 2.1 องค์ประกอบของป้ายไฟทางออกฉุกเฉิน 2.2 ขนาดของสัญลักษณ์ 3. จุดที่ต้องติดตั้งป้ายไฟทางออกฉุกเฉิน 4. มาตรฐานความสว่างของป้ายไฟทางออกฉุกเฉิน 5. ป้ายไฟทางออกฉุกเฉินแบบเรืองแสงและไฟฟ้า ป้ายไฟทางออกฉุกเฉินมีสองประเภทหลัก ได้แก่ ทั้งสองแบบมีข้อดีที่แตกต่างกัน แต่ป้ายไฟฟ้าทางออกฉุกเฉินเป็นที่นิยมมากกว่าในอาคารที่มีระบบไฟฟ้าฉุกเฉิน 6. การบำรุงรักษาป้ายไฟทางออกฉุกเฉิน สรุป ป้ายไฟทางออกฉุกเฉินถือเป็นมาตรการสำคัญในการเพิ่มความปลอดภัยของอาคาร โดยการออกแบบและติดตั้งต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ทั้งในเรื่องระยะห่าง, ขนาดสัญลักษณ์, ความสูงในการติดตั้ง และระดับความสว่าง เพื่อให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนและนำทางผู้ใช้อาคารได้อย่างปลอดภัยในสถานการณ์ฉุกเฉิน หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การออกแบบระบบไฟฟ้าฉุกเฉิน หรือ มาตรฐานความปลอดภัยในอาคาร สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้มาตรฐานระบบไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉินและโคมไฟฟ้าป้ายทางออกฉุกเฉิน พ.ศ. 2565 (วสท. 021004-22)

Read More »

วสท. คืออะไร และทำไมต้องอ้างอิงตามมาตรฐาน วสท.?

วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) หรือ “Engineering Institute of Thailand under H.M. The King’s Patronage” (EIT) เป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดมาตรฐานวิศวกรรมในประเทศไทย ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่า วสท. คืออะไร และทำไมมาตรฐาน วสท. จึงมีความสำคัญ บทบาทของ วสท. วสท. มีหน้าที่ในการส่งเสริมและพัฒนาวิชาชีพวิศวกรรมในประเทศไทย โดยมุ่งมั่นในการกำหนดมาตรฐานวิศวกรรม เพื่อให้การทำงานในสายอาชีพนี้มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด ตัวอย่างมาตรฐาน วสท. หนึ่งในตัวอย่างของมาตรฐานที่ วสท. กำหนดคือ มาตรฐานระบบไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉินและไฟฟ้าป้ายทางออกฉุกเฉิน พ.ศ. 2565 (วสท. 021004-22) ที่เน้นการให้แสงสว่างในภาวะฉุกเฉินและการติดตั้งระบบไฟฟ้าฉุกเฉินในอาคารและสิ่งก่อสร้างต่างๆ สรุป วสท. หรือ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย มีบทบาทสำคัญในการกำหนดมาตรฐานวิศวกรรมเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการทำงาน การอ้างอิงตามมาตรฐาน วสท. ช่วยให้การดำเนินงานมีความน่าเชื่อถือและเป็นไปตามกฎหมาย หากคุณเป็นวิศวกรหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบและติดตั้งระบบวิศวกรรมต่างๆ การอ้างอิงตามมาตรฐาน วสท. เป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง

Read More »
ทำความรู้จักระบบ Auto-Check

ประโยชน์ของโคมไฟฉุกเฉินและป้ายทางออกหนีไฟฉุกเฉิน: ความปลอดภัยที่ขาดไม่ได้ในทุกอาคาร

ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น ไฟไหม้ ไฟฟ้าดับ หรือภัยพิบัติอื่น ๆ การหลบหนีจากอาคารอาจเป็นเรื่องที่เสี่ยงและสับสน โดยเฉพาะเมื่อขาดแสงสว่างที่เพียงพอและป้ายบอกทางออกที่ชัดเจน นี่คือเหตุผลที่ โคมไฟฉุกเฉิน และ ป้ายทางออกหนีไฟฉุกเฉิน มีบทบาทสำคัญในการช่วยชีวิตและป้องกันความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกถึง ประโยชน์ของโคมไฟฉุกเฉินและป้ายทางออกหนีไฟฉุกเฉิน ว่าทำไมทุกอาคารจึงควรติดตั้ง และมาตรฐานสำคัญที่เกี่ยวข้อง 1. ความปลอดภัยและการนำทางในภาวะฉุกเฉิน 1.1 ช่วยให้มองเห็นและลดความตื่นตระหนก เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดับกลางอาคาร ผู้คนอาจเกิดความตื่นตระหนกและเคลื่อนที่อย่างไม่ปลอดภัย โคมไฟฉุกเฉินจะเปิดทำงานโดยอัตโนมัติ ช่วยให้แสงสว่างเพียงพอเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ เช่น การล้ม การชนสิ่งกีดขวาง และการเดินสะเปะสะปะ 1.2 ชี้นำเส้นทางหนีไฟอย่างชัดเจน ป้ายทางออกหนีไฟฉุกเฉิน ที่มีไฟในตัว จะช่วยนำทางไปยังทางออกที่ปลอดภัยที่สุด ลดโอกาสที่ผู้คนจะติดอยู่ในจุดอันตราย 2. การปฏิบัติตามมาตรฐานและกฎหมาย 2.1 มาตรฐานและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง ในประเทศไทย มีการกำหนดมาตรฐานเกี่ยวกับโคมไฟฉุกเฉินและป้ายทางออกหนีไฟฉุกเฉิน ได้แก่ 2.2 การบังคับใช้ในอาคารประเภทต่าง ๆ กฎหมายและมาตรฐานเหล่านี้มีผลบังคับใช้กับอาคารประเภทต่าง ๆ เช่น หากไม่ปฏิบัติตาม อาจถูกลงโทษตามกฎหมาย หรืออาคารอาจไม่ได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินกิจการ 3. ลดความเสี่ยงในการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน 3.1 ป้องกันการจราจรติดขัดในทางหนีไฟ การไม่มีแสงสว่างหรือป้ายบอกทางอาจทำให้เกิดความแออัดที่ทางออกฉุกเฉิน นำไปสู่การเหยียบกันและทำให้ผู้คนไม่สามารถหนีออกจากอาคารได้ทันเวลา 3.2 ลดความเสียหายจากเพลิงไหม้ ในกรณีเกิดเพลิงไหม้ โคมไฟฉุกเฉินจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมองเห็นพื้นที่ที่ต้องเข้าช่วยเหลือ 4. ประหยัดพลังงานและค่าบำรุงรักษา 4.1 เทคโนโลยี LED ประหยัดพลังงาน ปัจจุบันโคมไฟฉุกเฉินและป้ายหนีไฟมักใช้ เทคโนโลยี LED ที่กินไฟน้อยและมีอายุการใช้งานยาวนาน ช่วยลดต้นทุนค่าไฟและการบำรุงรักษา 4.2 ระบบตรวจสอบอัตโนมัติ มาตรฐานล่าสุดกำหนดให้โคมไฟฉุกเฉินและป้ายทางออกมีระบบ ตรวจสอบสถานะอัตโนมัติ ที่ช่วยแจ้งเตือนเมื่อแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ หรือมีข้อผิดพลาดในการทำงาน ลดภาระในการตรวจสอบด้วยตนเอง 5. การเลือกติดตั้งและบำรุงรักษา 5.1 การเลือกประเภทโคมไฟฉุกเฉิน 5.2 ตำแหน่งติดตั้งที่เหมาะสม 5.3 การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ บทสรุป โคมไฟฉุกเฉินและป้ายทางออกหนีไฟฉุกเฉิน เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญต่อความปลอดภัยของทุกอาคาร ไม่เพียงช่วยให้การอพยพเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนด การติดตั้งและบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง ไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน แต่ยังช่วยให้อาคารได้รับการรับรองตามกฎหมาย ลดโอกาสในการถูกปรับหรือถูกระงับการใช้งาน ดังนั้น อย่ารอให้เกิดอุบัติเหตุแล้วค่อยตระหนักถึงความสำคัญของโคมไฟฉุกเฉินและป้ายทางออกฉุกเฉิน

Read More »