Skip to content

Articles

วสท. คืออะไร และทำไมต้องอ้างอิงตามมาตรฐาน วสท.?

วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) หรือ “Engineering Institute of Thailand under H.M. The King’s Patronage” (EIT) เป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดมาตรฐานวิศวกรรมในประเทศไทย ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่า วสท. คืออะไร และทำไมมาตรฐาน วสท. จึงมีความสำคัญ บทบาทของ วสท. วสท. มีหน้าที่ในการส่งเสริมและพัฒนาวิชาชีพวิศวกรรมในประเทศไทย โดยมุ่งมั่นในการกำหนดมาตรฐานวิศวกรรม เพื่อให้การทำงานในสายอาชีพนี้มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด ตัวอย่างมาตรฐาน วสท. หนึ่งในตัวอย่างของมาตรฐานที่ วสท. กำหนดคือ มาตรฐานระบบไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉินและไฟฟ้าป้ายทางออกฉุกเฉิน พ.ศ. 2565 (วสท. 021004-22) ที่เน้นการให้แสงสว่างในภาวะฉุกเฉินและการติดตั้งระบบไฟฟ้าฉุกเฉินในอาคารและสิ่งก่อสร้างต่างๆ สรุป วสท. หรือ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย มีบทบาทสำคัญในการกำหนดมาตรฐานวิศวกรรมเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการทำงาน การอ้างอิงตามมาตรฐาน วสท. ช่วยให้การดำเนินงานมีความน่าเชื่อถือและเป็นไปตามกฎหมาย หากคุณเป็นวิศวกรหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบและติดตั้งระบบวิศวกรรมต่างๆ การอ้างอิงตามมาตรฐาน วสท. เป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง

Read More »
ทำความรู้จักระบบ Auto-Check

ประโยชน์ของโคมไฟฉุกเฉินและป้ายทางออกหนีไฟฉุกเฉิน: ความปลอดภัยที่ขาดไม่ได้ในทุกอาคาร

ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น ไฟไหม้ ไฟฟ้าดับ หรือภัยพิบัติอื่น ๆ การหลบหนีจากอาคารอาจเป็นเรื่องที่เสี่ยงและสับสน โดยเฉพาะเมื่อขาดแสงสว่างที่เพียงพอและป้ายบอกทางออกที่ชัดเจน นี่คือเหตุผลที่ โคมไฟฉุกเฉิน และ ป้ายทางออกหนีไฟฉุกเฉิน มีบทบาทสำคัญในการช่วยชีวิตและป้องกันความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกถึง ประโยชน์ของโคมไฟฉุกเฉินและป้ายทางออกหนีไฟฉุกเฉิน ว่าทำไมทุกอาคารจึงควรติดตั้ง และมาตรฐานสำคัญที่เกี่ยวข้อง 1. ความปลอดภัยและการนำทางในภาวะฉุกเฉิน 1.1 ช่วยให้มองเห็นและลดความตื่นตระหนก เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดับกลางอาคาร ผู้คนอาจเกิดความตื่นตระหนกและเคลื่อนที่อย่างไม่ปลอดภัย โคมไฟฉุกเฉินจะเปิดทำงานโดยอัตโนมัติ ช่วยให้แสงสว่างเพียงพอเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ เช่น การล้ม การชนสิ่งกีดขวาง และการเดินสะเปะสะปะ 1.2 ชี้นำเส้นทางหนีไฟอย่างชัดเจน ป้ายทางออกหนีไฟฉุกเฉิน ที่มีไฟในตัว จะช่วยนำทางไปยังทางออกที่ปลอดภัยที่สุด ลดโอกาสที่ผู้คนจะติดอยู่ในจุดอันตราย 2. การปฏิบัติตามมาตรฐานและกฎหมาย 2.1 มาตรฐานและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง ในประเทศไทย มีการกำหนดมาตรฐานเกี่ยวกับโคมไฟฉุกเฉินและป้ายทางออกหนีไฟฉุกเฉิน ได้แก่ 2.2 การบังคับใช้ในอาคารประเภทต่าง ๆ กฎหมายและมาตรฐานเหล่านี้มีผลบังคับใช้กับอาคารประเภทต่าง ๆ เช่น หากไม่ปฏิบัติตาม อาจถูกลงโทษตามกฎหมาย หรืออาคารอาจไม่ได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินกิจการ 3. ลดความเสี่ยงในการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน 3.1 ป้องกันการจราจรติดขัดในทางหนีไฟ การไม่มีแสงสว่างหรือป้ายบอกทางอาจทำให้เกิดความแออัดที่ทางออกฉุกเฉิน นำไปสู่การเหยียบกันและทำให้ผู้คนไม่สามารถหนีออกจากอาคารได้ทันเวลา 3.2 ลดความเสียหายจากเพลิงไหม้ ในกรณีเกิดเพลิงไหม้ โคมไฟฉุกเฉินจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมองเห็นพื้นที่ที่ต้องเข้าช่วยเหลือ 4. ประหยัดพลังงานและค่าบำรุงรักษา 4.1 เทคโนโลยี LED ประหยัดพลังงาน ปัจจุบันโคมไฟฉุกเฉินและป้ายหนีไฟมักใช้ เทคโนโลยี LED ที่กินไฟน้อยและมีอายุการใช้งานยาวนาน ช่วยลดต้นทุนค่าไฟและการบำรุงรักษา 4.2 ระบบตรวจสอบอัตโนมัติ มาตรฐานล่าสุดกำหนดให้โคมไฟฉุกเฉินและป้ายทางออกมีระบบ ตรวจสอบสถานะอัตโนมัติ ที่ช่วยแจ้งเตือนเมื่อแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ หรือมีข้อผิดพลาดในการทำงาน ลดภาระในการตรวจสอบด้วยตนเอง 5. การเลือกติดตั้งและบำรุงรักษา 5.1 การเลือกประเภทโคมไฟฉุกเฉิน 5.2 ตำแหน่งติดตั้งที่เหมาะสม 5.3 การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ บทสรุป โคมไฟฉุกเฉินและป้ายทางออกหนีไฟฉุกเฉิน เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญต่อความปลอดภัยของทุกอาคาร ไม่เพียงช่วยให้การอพยพเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนด การติดตั้งและบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง ไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน แต่ยังช่วยให้อาคารได้รับการรับรองตามกฎหมาย ลดโอกาสในการถูกปรับหรือถูกระงับการใช้งาน ดังนั้น อย่ารอให้เกิดอุบัติเหตุแล้วค่อยตระหนักถึงความสำคัญของโคมไฟฉุกเฉินและป้ายทางออกฉุกเฉิน

Read More »